แมงเม่าเรียกร้อง “หมอวิชัย” หยุดป่วน ถึงเวลาหันหน้าคุย “ทวิช”

แมงเม่าเรียกร้อง “หมอวิชัย” หยุดป่วน ถึงเวลาหันหน้าคุย “ทวิช” วอน ก.ล.ต. – ตลท.แก้ไขปัญหาแก่ผู้ถือหุ้นรายย่อย IFEC กว่าสามหมื่นราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักลงทุนรายย่อยของบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีปัญหาของ IFEC ที่นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ หรือ นายแพทย์วิชัย ที่ยังไม่ทำการเรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อแต่งตั้งผู้บริหารบริษัทชุดใหม่ หลังจากที่ นายทวิช เตชะนาวากุล ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ IFEC ได้ส่งเอกสารพร้อมกับกรรมการในฝ่ายของตนเองรวม 5 คนนั้นอย่างครบถ้วนให้กับบริษัท รวมทั้ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แล้วเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากได้รับคัดเลือกในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 14 ก.พ.60

โดยผู้ถือหุ้นรายย่อย ระบุว่า ตนเองต้องได้รับความเดือดร้อนเนื่องจาก IFEC นั้นยังติดเครื่องหมาย SP และยังติดชำระหนี้ตั๋ว B/E ซึ่งต้องการให้เกิดการประชุมคณะกรรมการให้เร็วที่สุดเพื่อให้รีบหยุดความเสียหาย พร้อมกับคาดหวังให้กรรมการรีบฟื้น IFEC ให้กลับมาเดินหน้าธุรกิจตามปกติได้ เพื่อกอบกู้โครงสร้างฐานะการเงินให้แข็งแกร่ง

ทั้งนี้มองว่านายแพทย์วิชัยทำการการเตะถ่วงการแต่งตั้งกรรมการ ทั้งๆที่สามารถเร่งรัดทำได้เลย โดยก่อนหน้านี้อ้างว่า สาเหตุที่ยังแต่งตั้งกรรมการไม่ได้เกิดจากกรรมการบางคนส่งเอกสารไม่ครบถ้วน แต่ล่าสุดฝั่งนายทวิชก็ได้แสดงหลักฐานว่าได้ยื่นเอกสารครบถ้วนไปถึงบริษัทแล้ว อีกทั้งยังได้ส่งเอกสารฉบับสำรองไปยังตลท. และ ก.ล.ต. เพื่อยืนยันเจตนารมณ์

ซึ่งการแสดงออกเช่นนี้ มองว่ามีการปกปิดซ่อนเร้นอะไรบางอย่าง ซึ่งที่ผ่านมานายแพทย์วิชัยก็ไม่เคยมีแผนเป็นรูปธรรมที่จะจัดการปัญหาระเบิดเวลาหนี้ตั๋ว B/E ได้เลย นับแต่เปิดศักราชใหม่ปี 2560 ก็ปล่อยให้ตั๋ว B/E โดน default มาหลายครั้งและในเดือน ก.พ. นี้ ยังมีหนี้อีกราว 1,800 ล้านบาท ที่คาดว่าจะ default ต่อไปเพราะไม่มีกรรมการเข้ามาแก้ไขปัญหาและการหาทางออกให้กับเรื่องนี้

สำหรับสิ่งที่กำลังตามมาคือเงื่อนไขการเรียกคืนหนี้ระยะกลางที่เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกคืนได้อย่างมหาศาลหากบริษัทไม่มีกรรมการครบตามกฎหมาย ซึ่ง IFEC มีหนี้ที่ต้องชำระภายในปีนี้รวม 6,500 ล้านบาท แบ่งเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินระยะสั้น (B/E) 3,500 ล้านบาท และหุ้นกู้ 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าพฤติกรรมของนายแพทย์วิชัย นั้น เพราะต้องการปกปิดอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถบอกให้สังคมรับรู้ หรือกลัวว่ากรรมการชุดใหม่จะเข้าไปพบความผิดปรกติ จึงต้องยืดเวลาการตั้งกรรมการชุดใหม่หรือไม่

ทางผู้ถือหุ้นรายย่อยขอความเห็นใจตลาดหลักทรัพย์และสำนักงาน ก.ล.ต. ให้ออกมาทำหน้าที่ของตนเอง พร้อมขอร้องนายแพทย์วิชัยให้กลับมาเจรจากับนายทวิช และให้ความชัดเจนกับผู้ถือหุ้นรายย่อยโดยเร็ว