ATP30 ปักธงปี 60 โตกระฉูด! รับรู้รายได้ลูกค้าเก่าเต็มปี-เน้นคุมต้นทุน

ATP30 กำไรปี 59 โตกระฉูด! ปักธงปี 60 โตต่อเนื่องกว่า 15% จากการรับรู้รายได้ลูกค้าเก่าเต็มปี – ลูกค้าใหม่ พร้อมปรับโฉมเพิ่มกำไรขั้นต้น เน้นการบริหารจัดการต้นทุนเป็นหลัก 

นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30-11.00 น. ถึงกรณีที่บริษัทประกาศกำไรปี 59 ออกมาอย่างอย่างก้าวกระโดด โดยมีกำไรสุทธิ 21.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.89% จากปีก่อนมีกำไร 11.80 ล้านบาท ว่า ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตเนื่องจาก บริษัทมีจำนวนรถที่ให้บริการกับลูกค้าเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ส่งผลให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลทั้งหุ้นปันผล และเงินสด โดยจ่ายเป็นหุ้นในอัตรา 8 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล และการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด 0.01348 บาทต่อหุ้น โดยมีกำหนดขึ้น XD วันที่ 11 เม.ย 60 กำหนดจ่ายปันผล 2 พ.ค.60 โดยสาเหตุที่บริษัทปันผลเป็นหุ้นเนื่องจาก อยากให้สภาพคล่องของหุ้นที่อยู่ในตลาดมีปริมาณที่มากขึ้น และเก็บเงินสดเพื่อใช้ในการลงทุนขยายกิจการ

อีกทั้งในวันที่ 3 เม.ย.60 บริษัทมีมติเสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณาการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท รุ่นที่ 1 หรือ ATP30-W1 เพื่อระดมทุนเพื่อใช้ขยายกิจการเดินรถในปี 61-62 ในจำนวนไม่เกิน 123,750,000 หุ้น ในอัตราส่วน 4:1โดยมีอัตราใช้สิทธิ 1 ต่อ 1 ในราคา 0.85 บาทต่อหุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิซื้อหลักทรัพย์แปลงสภาพ XW วันที่ 12 พ.ค.60

 

ส่วนรายได้ของบริษัทในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% โดยจะมีการรับรู้รายได้เต็มปีในส่วนของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในปีที่แล้วและจะมีลูกค้าใหม่ที่เข้ามาในปีนี้ด้วย “บริษัทอยากพัฒนาในส่วนของกำไรขั้นต้นให้สูงขึ้น และเชื่อว่าบริษัทมีประสบการณ์ในการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่าย จึงมองว่าค่าใช้จ่ายที่เป็นการบริหารคงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว” นายปิยะ กล่าว

ขณะที่บริษัทมีนโยบายในการปรับอัตรากำไรขั้นต้นให้สูงขึ้น โดยบริษัทมีแผนเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการด้านต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อรักษามาตรฐานความปลอดภัยในการเดินรถ และควบคุมต้นทุนโดยรวมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นขอ ISO 39001 เกี่ยวกับการบริหารจัดการความปลอดภัยบนท้องถนน หวังเพิ่มมาตรฐานการให้บริการ ซึ่งหากประสบความสำเร็จในแผนดังกล่าวอัตราการเกิดอุบัติเหตุลดลง ค่าเบี้ยประกันภัยของบริษัทก็จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

โดยปัจจุบันบริษัทมีสัญญาการบริการให้กับลูกค้าทั้งหมด 27 ราย ในขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมการขยายการเดินรถ เพื่อรองรับลูกค้าใหม่ โดยปัจจุบันการเดินรถของบริษัทส่วนใหญ่เน้นทางภาคตะวันออกเป็นหลัก เนื่องจากบริษัทเห็นช่องทางและโอกาสในการทำรายได้ จากนโยบายส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของทางภาครัฐ

ส่วนในแง่ของการบริหารจัดการน้ำมัน บริษัทพยายามที่จะรักษาประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ โดยการเลือกใช้อะไหล่หรืออุปกรณ์ต่างๆให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และการใช้น้ำมันต่อกิโลเมตรต่ำลง รวมถึงได้รับความร่วมมือจากผู้จัดจำหน่ายรถให้แก่บริษัทซึ่งมีการฝึกอบรมการขับขี่รถให้ประหยัดน้ำมัน อีกทั้งบริษัทยังมีแคมเปญแข่งขันในเรื่องของพนักงานขับรถที่ขับรถได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งทำต้นทุนในส่วนของน้ำมันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ