ORI เผยปีนี้เล็งเปิด 9 โครงการใหม่ พร้อมโชว์ Backlog กว่า 1.28 หมื่นลบ.

ORI คาดยอดขาย Q1/60 หดตัวจากแนวโน้มภาพรวมอสังหาฯ H1/60 ชะลอตัว – เล็งเปิด 9 โครงการใหม่ในปีนี้ มูลค่ารวม 1.5 หมื่นลบ. , โชว์ยอด Backlog ราว 1.28 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้ฯในปีนี้ 4.5 พันลบ.


นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายของบริษัทในไตรมาส 1/60 คาดว่าทำได้ 1 พันล้านบาท จากที่ทำได้เกือบ 2 พันล้านบาทในไตรมาส 1/59 เนื่องจากบริษัทยังมองว่าแนวโน้มภาพรวมของเศรษฐกิจและกำลังซื้อยังคงชะลอตัวอยู่ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ เพราะการลงทุนต่างๆของภาครัฐยังไม่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้ยังไม่มีปัจจัยที่ส่งผลนัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นในครึ่งปีแรกนี้

โดยปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทต้องมีการการวางแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกอย่างรอบคอบ เพราะภาวะที่เศรษฐกิจยังชะลอตัวส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ทำให้การเปิดโครงการในช่วงครึ่งปีแรกเป็นการค่อยทยอยเปิดตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม และเป็นการเปิดโครงการใหม่ในทำเลที่มองว่ามีศักยภาพมากที่สุดก่อน

สำหรับไตรมาส 1/60 บริษัทได้เปิดโครงการใหม่เพียง 1 โครงการ คือ โครงการนอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105 มูลค่า 2.35 พันล้านบาท ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.99 ล้านบาท/ยูนิต ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 75,000 บาท/ตารางเมตร เริ่มเปิดพรีเซล 3 อาคารจาก 6 อาคารในวันที่ 25 มี.ค.60 ที่ ไบเทค บางนา พร้อมห้อง Fully Furnished ราคาพิเศษ 1.69-1.89 ล้านบาท โดยบริษัทคาดหวังยอดจองในวันพรีเซลทำได้ 70%

ส่วนอีก 3 อาคารที่ไม่ได้เปิดพรีเซลนั้น อาคารหนึ่งมีตัวแทนขายจากต่างประเทศมาเหมาไปขายที่ฮ่องกงและไต้หวันแล้ว ขณะที่อีก 1 อาคารอยู่ระหว่างการเจรจากับตัวแทนขายจากทางญี่ปุ่น โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มก่อสร้างในช่วงเดือน มิ.ย.60 หลังได้รับใบอนุญาตวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 1/62

นายพีระพงศ์ กล่าวว่า บริษัทยังจะนำโครงการอื่นๆ ไปขายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 36 วันที่ 9-12 มี.ค.ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บริษัทคาดหวังยอดขายจากงานดังกล่าว 100-200 ล้านบาท

ส่วนไตรมาส 2/60 บริษัทวางแผนเปิดโครงการคอนโดมิเนียมไหม่อีก 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4-5 พันล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาทำเลที่มีความน่าสนใจที่สุดสำหรับการเปิดโครงการ และโครงการแนวราบโครงการแรกของบริษัทคาดว่าจะเปิดตัวไนช่วงเดือน ก.ค.นี้

นายพีระพงศ์ กล่าวว่า บริษัทวางแผนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ทั้งหมด 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.5 หมื่นล้านบาท โดยโครงการใหม่ที่จะเปิดส่วนใหญ่จะหันไปเจาะกลุ่มตลาดระดับกลาง-บน มากขึ้น แต่จะเน้นตลาดระดับกลางเป็นส่วนใหญ่ เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการรายใหญ่หันไปเจาะตลาดระดับบนมากขึ้น บริษัทจึงมองเห็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าระดับกลาง โดยเฉพาะระดับราคา 3-5 ล้านบาทขึ้นไปจะมีส่ดส่วนเพิ่มเป็น 60% จากปีก่อนอยู่ที่ 30-40% ส่วนโครงการระดับราคา 1-3 ล้านบาทในปีนี้จะมีสัดส่วน 40% จากปีก่อน 60-70%

ด้านยอดขายของบริษัททั้งปี 60 ตั้งเป้าอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท และรายได้ 6 พันล้านบาท โดยบริษัทมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ของบริษัทในปัจจุบันมีอยู่ 1.28 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 4.5 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 62

 

Back to top button