ทิสโก้ ชี้ SET มี.ค.มีไซด์เวย์-สร้างฐานใหม่หลังพ้นแรงกดดันเฟดขึ้นดบ.
บล.ทิสโก้ ชี้ SET มี.ค.มีลุ้นทั้งไซด์เวย์-สร้างฐานใหม่หลังพ้นแรงกดดันเฟดขึ้นดบ.
นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ปีนี้ SET Index น่าจะมีแนวรับ-แนวต้านอยู่ที่ 1,500-1,650 จุด โดยในช่วง ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา เริ่มปรับตัวลดลงประมาณ -0.7% หลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,600 แล้วจึงมีการปรับพอร์ตหลังสิ้นสุดช่วงประกาศผลประกอบการ
ส่วนแนวโน้มในเดือน มี.ค.นี้ คาดว่าจะได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก่อนจะ Sideway Up ไปแนวต้านที่ 1,575 หรือ 1,595 จุด แต่หากผิดคาด SET อาจลงต่ำกว่า 1,545 จุด และลงไปสร้างฐานใหม่ที่ 1,520 จุด
ทั้งนี้ แนะเข้าซื้อสะสมหุ้นที่ยังขึ้นน้อย (Laggard) อาทิ “กลุ่มสื่อสาร-รับเหมาก่อสร้าง-โรงแรมและอสังหาริมทรัพย์”
อย่างไรก็ตาม หากสหรัฐฯ มีการใช้นโยบายลดภาษีโอนเงินทุนบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ในต่างแดนกลับแผ่นดินแม่ (Repatriation Tax) กระตุ้นให้บริษัทที่สะสมเงินลงทุนในต่างประเทศเอาเงินกลับเข้าประเทศ และนโยบายกีดกันทางการค้า เช่น การจัดเก็บภาษีแบบ Border Adjustment Tax ซึ่งเป็นการเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าและลดภาษีสินค้าส่งออก ทำให้ดุลการค้าสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น โดยทั้งสองแนวคิดอาจจะส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า แม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะอยู่ในระดับที่แพงแล้ว แต่โดยภาพรวมยังอยู่ในภาวะ Sideway Up จากการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารที่ได้รับจากปัจจัยหนุนอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และกลุ่มพลังงานจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน โดยตลาดหุ้นที่ยังน่าสนใจ ได้แก่ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น จีน และอินเดีย
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะ Overbought จากเงินลงทุนตราสารหนี้ที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และคาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องในปี 60 นี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน มี.ค.นี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ น่าจะปรับฐานลงจากความกังวลด้านการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และจะกลับขึ้นไปทำ New High ครั้งใหม่ โดยมีแนวโน้มที่ Fund Flow จะไหลเข้าสู่กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่มากขึ้น (Emerging Market) จากปัจจัยความเสี่ยงด้านการเมืองในยุโรป
“หลังจบการลงปรับฐาน Fund Flow น่าจะไหลเข้ามาในเอเชีย ไทยอาจจะได้รับอานิสงส์ด้วย เหตุผลเพราะว่า ปัจจัยความเสี่ยงจากการเมืองในยุโรปจะเริ่มเข้ามามีน้ำหนักมากขึ้น โดยนอกจากอังกฤษจะเริ่มกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการภายในสิ้นเดือน มี.ค. แล้ว ยังมีการเลือกตั้งทั่วไปในเนเธอร์แลนด์วันที่ 15 มี.ค. นี้ ซึ่งพรรค Party for Freedom (PVV) ที่มีนโยบายออกจากสหภาพยุโรปก็มีโอกาสชนะการเลือกตั้ง ความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปจะมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส การเลือกตั้งทั่วไปในเยอรมนี ซึ่งจะมีขึ้นในช่วง เม.ย.-พ.ค. และ ก.ย. ตามลำดับ รวมถึงโอกาสที่จะมีการจัดการเลือกตั้งในอิตาลีในช่วงครึ่งปีหลัง” นายวิวัฒน์ กล่าว
อนึ่ง งานสัมมนา TISCO Monthly GURU Updates จะจัดเป็นประจำทุกเดือนเพื่อเผยแพร่บทวิเคราะห์และทิศทางการลงทุนเพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางการเงินเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นในการเป็น Top Advisory House ของทิสโก้