K ฟุ้งกำไรปีนี้โตแกร่ง-อยู่ระหว่างเจราจรพันธมิตรตปท.
K ฟุ้งกำไรปีนี้โตแกร่ง หลังรับงานออกแบบ-ตกแต่ง Shop Brandname เพิ่มขึ้น, อยู่ระหว่างเจราจรพันธมิตรตปท. คาดได้ข้อสรุปเม.ย.นี้
นายชยวัฒน์ พิเศษสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ K ผู้นำธุรกิจออกแบบ และตกแต่งอย่างครบวงจร (One-Stop-Shop Solution) เปิดเผยว่า อัตรากำไรสุทธิปีนี้จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากระดับ 5.19% ในปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้เข้ารับงานออกแบบ และตกแต่ง Shop Brandname มากขึ้น โดยปัจจุบันได้งาน Shop Brandname มาแล้ว 3-4 แห่ง และงานดังกล่าวให้มาร์จิ้นมากที่สุดของงานที่บริษัทเคยรับมา
ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง เวียดนาม และสิงคโปร์ เพื่อเข้าร่วมรับงานในตึก ICON Siam ซึ่งมี Shop Brandname กว่า 30-40 แห่ง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือนเม.ย. ก่อนที่จะเริ่มเข้าประมูลในเดือน มิ.ย. เป็นต้นไป
นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรู้ผลการประมูลใน 2-3 เดือนข้างหน้า
อย่างไรก็ตามมีงานที่จะรู้ผลการประมูลในเดือนมี.ค.นี้ มูลค่า 400-500 ล้านบาท ซึ่งบริษัทหวังที่จะได้งานไม่ต่ำกว่า 50% ของมูลค่างานทั้งหมด ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) แล้ว 762 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ราว 40-45% ของมูลค่างานทั้งหมด ในช่วงไตรมาส 1/60 นี้
“ปีนี้เรามั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 25% โดยมีแนวโน้มที่ดีตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดห้างใหม่ การปรับปรุงห้างเดิม รวมไปถึงการเปิดโรงแรมใหม่ที่มีค่อนข้างมาก ทำให้เรามีงานใหม่ ๆ เข้ามาเยอะ และปีนี้เรายังมีงาน Shop Brandname ที่มากกว่าปีก่อน ที่จะช่วยให้อัตรากำไรสุทธิของเราปรับตัวดีขึ้นด้วย”นายชยวัฒน์ กล่าว
นายชยวัฒน์ กล่าวว่า ปีนี้โอกาสการเติบโตเป็นไปในทิศทางเดียวกับการขยายตัวของการลงทุนของภาครัฐ และภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการขยายตัวของพื้นที่ห้างสรรพสินค้า และพื้นที่ค้าปลีกทั่วประเทศ ที่ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวสูงในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เช่น ICON Siam, ส่วนขยาย Mega บางนา, Central ภูเก็ต, Central มหาชัย, Central นครราชสีมา, Terminal 21 พัทยา, Terminal 21 ขอนแก่น และ Blupearl ภูเก็ต เป็นต้น โดยล่าสุดบริษัทได้เข้ารับงานตกแต่ง และก่อสร้างงานโครงการอนุรักษ์ และพัฒนาตึกแถวชุมชนเลื่อนฤทธิ์เป็นจำนวนเงิน 172 ล้านบาท โดยจะเข้าตกแต่ง และก่อสร้างงานวิศวกรรมโครงสร้างใหม่ทั้งหมด และระบบวิศวกรรมไฟฟ้ารวมถึงตกแต่งภายในอาคาร โดยยังคงอนุรักษ์ส่วนด้านหน้าอาคารให้เป็นแบบเดิมสมัยรัชกาลที่ 5
ทั้งนี้ บริษัทยังเตรียมเดินหน้าที่จะบุกตลาดต่างประเทศเพื่อที่จะสร้างฐานรองรับการเติบโตในอนาคต โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 30% ภายในปี 64 จากปัจจุบันอยู่ที่ไม่ถึง 5% ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมเปิดอาคารสำนักงานในประเทศกัมพูชา เพื่อที่จะรับงานได้มากขึ้น ขณะที่ในเมียนมาที่ได้ขยายตลาดเมื่อ 2 ปีก่อนก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้จากเมียนมาไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท จากปีก่อนมีไม่ถึง 10 ล้านบาท ส่วนประเทศลาว มีห้างเตรียมเปิดตัวอีกหลายแห่ง บริษัทก็เชื่อว่าจะได้รับงานเข้ามามากขึ้นด้วย