ครึ่งบ่ายไม้สั้น – บล.คันทรี่กรุ๊ป

บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้


สรุปตลาดภาคเช้า

ตลาดภาคเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้น ในทิศทางเดียวกันกับตลาดรอบบ้าน โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มแข็งแกร่ง หลังจากการรายงานตัวเลขปริมาณผลิตน้ำมันของสหรัฐลดลงเป็นครั้งแรกในเดือน มี.ค. ขณะที่แรงเหวี่ยงจากการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกยังต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มทีนำตลาดในภาคเช้าคือหุ้นกลุ่มพลังงาน ดัชนีปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.33 จุด (+0.81%) มาอยู่ที่ 1,537.91 จุด มูลค่าซื้อขาย 2.1 หมื่นล้านบาท

 

แนวโน้ม ภาคบ่าย

ประเมินว่าดัชนีจะทรงตัวในแดนบวก จากโมเมนตัมของตลาดที่สามารถผ่านแนวต้าน 1,530 จุดมาได้ สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำทยอยลดพอร์ต เพื่อล๊อคกำไร โดยเน้นการลงทุนรายตัวที่ยังไม่ปรับตัวขึ้นมากนัก จากความเสี่ยงของการขายทำกำไรที่น้อยกว่า เรามองหุ้นกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มที่น่าสนใจในการเก็งกำไร จากแนวโน้มราคา Commodity ที่ปรับขึ้นจากการอ่อนตัวลงของค่าเงินสหรัฐ และมุมมองต่อเศรษฐกิจที่ดีขึ้นทั้งยุโรปและจีน

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

PRINC ราคาปิด 4.34 บาท

แนวรับ           4.28 บาท           แนวต้าน 4.60 บาท

แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 4.24 บาท

กราฟ PRINC ลงลึกมาเกือบเท่าตัวในเวลาอันรวดเร็ว เข้าสู่แนว super oversold ซึ่งจะทำให้เกิดการ rebound ได้เร็วเช่นกัน และล่าสุดกราฟฟอร์มตัวเป็นสํญญาณซื้อแล้ว กำลังสร้างรูป V-shape การเข้าเก็งกำไรในราคาแถวนี้ความเสี่ยงต่ำ แนะนำซื้อ

 

CSS ราคาปิด 7.55 บาท

แนวรับ 7.45 บาท           แนวต้าน 8.25  บาท

แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 7.30 บาท

กราฟ CSS อยู่ในระหว่างไต่ระดับเป็น W-shape ในแท่งเทียน โดยเกิด Buy signal อย่างเต็มตัวใน RSI และปริมาณการซื้อขายกลับมาค่อยๆ หนาแน่นขึ้น หากผ่านแนว 7.85 บาท จะมี follow buy ทางเทคนิค แนะนำสะสมเวลานี้ เพื่อรอการดีดตัวขึ้นในระยะต่อไป

 

เด็กแนว

–  ECF   หุ้นดีที่เคยร้อนแรง แต่ช่วงหลังอืดอาดไปหน่อย  แต่หากนับตัวเลขผลประกอบการในอนาคตแล้วต้องบอกว่าราคาหุ้นจะไม่ควรต่ำแบบนี้อย่างแน่นอน รายได้จากการขายเฟอร์นิเจอร์เดิม ก็คือราคาหุ้นปัจจุบัน ยังไม่นับรวมรายได้เพิ่มจากสินค้าลิชสิทธิ์ของ Disney ที่ผู้บริหารบอกว่าตอนนี้บริษัทได้ออกวางขายแล้ว และเคยมีข่าวที่จะไปจับมือกับ Index ถ้ามีการทำจริง รายได้คงพุ่งไปหลายเท่าเลยนั่น  ส่วนเรื่องของการขายไฟ solar roof top ปี 59 จะรับรู้รายได้ ทำไปเยอะขนาด 30 MW ก็จะมีกำไรจากรายการนี้ต่อปีไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาทเห็นๆ อยู่แล้ว และเรื่องจากการจะไปทำร้านขายของ Retail จากญี่ปุ่นนั้น คิดว่ากำลังจะได้เรื่องล่ะ

ซึ่งเมื่อทุกอย่างครบ จะทำให้ ECF มีขนาดของรายได้ที่ใหญ่ ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ น่าจะระดับ 2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีก่อน และถ้ารวมขายไฟฟ้า กับร้านค้าปลีกกำไรของบริษัทในอนาคตไม่ควรจะน้อยกว่า 350 ล้านบาท จาก 70 ล้านบาทในปัจจุบัน และราคาหุ้นก็ควรจะไปเป็นเท่าตัวไม่ยากอยู่นะ ตรงนี้เด็กแนวว่าต่ำไป ปรับฐานลงมาให้เล่นแล้ว ก็เล่นกันหน่อย แนวต้านสั้น 5.60 บาท

–  FIRE กลับมาหาน้องไฟกันอีกครั้ง เพราะราคายังไม่ได้ไปไหน และควรจะไปได้ไกลกว่านี้เช่นกัน วันก่อนบอกไปว่าเป็นหุ้นที่อาจต้องจับตาอย่างยิ่ง เพราะปัญหาอัคคีภัยเป็นเรื่องใกล้ตัว และอาคารที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย จะถูกเข้มงวดอย่างมาก และมีประกาศจากต้นระทรวง เรื่องการเข้มงวดเรื่องการควบคุมอาคารต่างๆ ให้ปฏิบัติตาม พรบ. ควบคุมอาคารตามหลักเกณฑ์ 9 ประเภท เช่น อาคารสูง  อาคารขนาดใหญ่  โรงมหรสพ  โรงแรม สถานบริการต่างๆ โรงงานต่างๆ เหล่านี้จะต้องมีการตรวจสอบสภาพให้ถูกต้องเน้นไปที่เรื่องปัญหาอัคคีภัย

นี่คือปัจจัยบวกเต็มๆ กับ FIRE ที่ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนออกมา เนื่องจากเป็นผู้ออกแบบ ติดตั้งระบบป้องกันเพลิงไหม้ และได้ปรับประโยชน์สูงกว่าใคร เนื่องจากจะมีคำสั่งซื้อ รวมทั้งสัญญาในการดูแล ให้คำปรึกษา ออกแบบทะลักเข้ามาอย่างเต็มพิกัด ยังไม่นับงานที่จะได้รับจากรถไฟฟ้าทั้งสายสีเขียว สีม่วง และสายอื่นๆ ราคาหุ้นอยู่ในช่วงสร้างฐานไม่ลงแล้ว พร้อมยิงแรง ยิงยาวตรงนี้จึงแนะนำสะสมกันไว้ ลุ้นเป็นขั้นบันได ต้านแรก 4.30 บาทก่อน

Back to top button