BEAUTY คาดรายได้ปีนี้โตไม่เกิน 20% เล็งเข้าลงทุนในจีนคาดชัดเจนใน 3 ปี

BEAUTY คาดรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 20% ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ตปท.ปีนี้เพิ่มเป็น 8% เผยอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนในปท.จีน คาดเห็นความชัดเจนใน 2-3 ปี


นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY เปิดเผยว่า บริษัทตั้งงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 160 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนขยายสาขาใหม่จำนวน 110 ล้านบาท โดยในต่างประเทศมีแผนขยายสาขาที่เป็น Independent Shop จำนวน 14 สาขา จากปัจจุบันมี 40 สาขา กระจายอยู่ในกลุ่มประเทศ CLMV ทั้งกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม รวมถึงฟิลิปินส์ ตลอดจนมีแผนขยายสาขาที่เป็น Shop in Shop จำนวน 10 สาขา จากปัจจุบันมี 138 สาขา กระจายอยู่ในประเทศภูมิภาคเอเชีย คือ ฮ่องกง ไต้หวัน และอินโดนีเซียด้วย

นอกจากนี้ล่าสุด บริษัทได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศฟิลิปปินส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีแผนจะเปิดสาขาแรก ในรูปแบบ Independent Shop BEAUTY BUFFET ในช่วงไตรมาส 2 ณ Ayala 30th mall Ayala South Park ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่อันดับต้นๆในฟิลิปปินส์ ขณะที่ปีนี้วางแผนเปิดสาขาในฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่องราว 4-5 สาขา อย่างไรก็ตามหลังจากรุกตลาดดังกล่าว บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 8% จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้อยู่ราว 7%

พร้อมกันนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาและเจรจากับพันธมิตรจำนวนหลายราย ในการขยายการลงทุนไปยังประเทศจีน เพิ่มเติมอีก คาดว่าในระยะ 2-3 ปี จากนี้น่าจะเห็นความชัดเจนได้ในเรื่องของช่องทางหรือรูปแบบการลงทุน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาบริษัทก็ได้ศึกษาตลาดจีนมาโดยตลอด แต่การลงทุนยังต้องมีความระมัดระวังอย่างมาก

ส่วนตลาดในประเทศปัจจุบันมีสาขาอยู่ที่ 332 สาขา ก็มีแผนเพิ่มสาขา BEAUTY BUFFET จำนวน 30 สาขา ,BEAUTY COTTAGE จำนวน 15 สาขา และ BEAUTY MARKET จำนวน 5 สาขา

ขณะเดียวกันมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 20-25% ของจำนวนผลิตภัณฑ์ทั้งหมด (SKUs) โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์  BEAUTY BUFFET อยู่ที่ 800-1,000 SKUs และ BEAUTY COTTAGE อยู่ที่ 400 SKUs โดยวางงบลงทุนด้านการตลาดปีนี้ไว้ 3% ของรายได้รวม ซึ่งบริษัทก็มีการขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มเติม เพื่อให้ครบคลุมกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านร้าน KING POWER 3 สาขา ประกอบด้วย ศรีวารี คอมเพล็กซ์ ,สุวรรณภูมิ และดอนเมือง เป็นต้น และมีจำนวนสินค้าที่วางขายกว่า 30 SKUs อาทิ Series Milk Plus,Vit C Double Mike,Aqua ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักท่องเที่ยวและผู้บริโภคเป็นอย่างดี และเชื่อว่าจะมียอดขายผ่านช่องทางจำหน่ายดังกล่าวเพิ่มขึ้น

ขณะที่บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน มาที่ราว 3,100 ล้านบาท และจะรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิปีนี้ไม่ให้ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 25.64% เป็นไปตามการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ และช่องทางการจำหน่ายอื่น ๆ โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ผ่านทาง Facebook และเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งปีนี้คาดว่าสัดส่วนรายได้จากช่องทางออนไลน์จะเพิ่มขึ้นมาที่กว่า 3% จากปัจจุบันอยู่ราว 2.9%

ด้านการนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (โรดโชว์) ปีนี้บริษัทมีแผนเดินทางไปโรดโชว์ในโซนเอเชีย และยุโรป เนื่องจากมีนักลงทุนจำนวนมากได้ให้ความสนใจในตัวบริษัท โดยปัจจุบันมีสัดส่วนนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมราว 20%

Back to top button