ครึ่งบ่ายไม้สั้น – บล.คันทรี่กรุ๊ป

สรุปตลาดภาคเช้า

ตลาดภาคเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้น ในทิศทางเดียวกันกับตลาดรอบบ้าน โดยตลาดหุ้นไทยแรงเก็งกำไรเริ่มอ่อนลงจากปริมาณการซื้อขายที่เริ่มเบาบางก่อนเข้าช่วงหยุดยาว รวมถึงไม่มีปัจจัยใหม่ๆมากระตุ้น สำหรับกลุ่มที่เด่นในภาคเช้าคือกลุ่มสินค้าเกษตร ทั้งนี้ดัชนีปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.86 จุด (+0.12%) มาอยู่ที่ 1,534.09 จุด มูลค่าซื้อขาย 1.3 หมื่นล้านบาท 

แนวโน้ม ภาคบ่าย

ประเมินว่าดัชนีจะปรับตัวลดลง จากความวิตกกังวลต่อราคาน้ำมันดิบซึ่งกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน อีกทั้งเรามองแรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงก่อนเข้าช่วงวันหยุดยาวในช่วงปิดตลาดจะกดดันดัชนี แนะนำเก็งกำไร Theme ผู้ได้ประโยชน์จากอากาศร้อนในช่วงสงกรานต์ ประกอบกับเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัว

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

NPP ราคาปิด 2.34 บาท

แนวรับ 2.30 บาท    แนวต้าน 2.44  บาท

แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 2.28 บาท

กราฟ NPP ยกตัวขึ้นผ่านกรอบขาลง เราเรียกว่ารูปชายธง  โดยปริมาณการซื้อขายสะสมอยู่ในระดับปานกลางถึงหนาแน่นในรอบ 2 สัปดาห์และราคาหุ้นเริ่มทรงตัวไม่ดิ่งแรงเหมือนก่อนหน้านี้   การทรงตัวทำให้เกิด Divergence ใน RSI  เป็นสัญญาณการสะสมหุ้น  หากดีดตัวขึ้นผ่าน 2.44 บาท จะเกิดสัญญาณซื้อขนาดใหญ่   แนะนำสะสม

เด็กแนว

–  PE   เห็นโวลุ่มตลาดหดลงอย่างนี้แล้วก็อ่อนใจ เพราะหุ้นไม่มีแรงจะวิ่งไปไหนได้  ยิ่งเป็นหุ้นใหญ่ก็ยิ่งยากกันไปใหญ่ ส่วนหุ้นเล็กต่างก็ระวังตัว เนื่องจากใกล้วันหยุดยาวปัจจัยไม่แน่นอนของตลาดทำให้คาดการณ์ทิศทางยาก   บ่ายนี้หันมาสนใจ PE  หุ้นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านการเงิน  ที่รอข่าวดีมาหลายไตรมาสเกี่ยวกับธุรกิจใหม่  หลังจากข่าวว่ามีการปรับโครงสร้างธุรกิจเรียบร้อยกับกลุ่มเจ้าหนี้ต่างๆ   และบริษัทก็ได้ออกจากแผนฟื้นฟู  เตรียมที่จะปรับโครงสร้างทุนอีกทั้งเพื่อให้มีเงินทุนเพียงพอ และล้างขาดทุนสะสมให้เกลี้ยง  ซึ่งเป็นไปได้ทั้งการหาพันธมิตรต่างชาติ เช่นญี่ปุ่น เพื่อร่วมทุนบุกสินเชื่อรายย่อย  อย่าง นาโนไฟแนนซ์  เด็กแนวอยากเห็นแผนชัดๆ   เพราะอาจจะมีการเปลี่ยนโฉมบริษัทไปเลย  ขณะที่ราคาหุ้นก็ทรงๆ  ไม่ลงอีกต่อไป   ด้านเทิคนน่าสนใจ ตรงที่ราคาหุ้นกำลังตีโค้งกลับขึ้นมา  RSI วิ่งสวนทางแบบ Bullish Divergence  บอกเราว่าเป็นจังหวะเก็บสะสม ต้านแรกขอให้โชคดี เจอกัน 1.50 บาท   

–  NUSA   หุ้นอสังหาฯ ราคาเล็ก แต่โครงสร้างทุนไม่เล็กตามตาม และโครงการในมือแต่ละแห่งก็ใหญ่โตไม่ใช่เล่น  อย่างที่พัทยาจะสร้างสวนน้ำขนาดใหญ่  มูลคาราว 8.5 พันล้านบาท  ขณะที่โครงการศรีราชา  2 แห่งรวมกัน 1.4 หมื่นล้านบาทไม่ธรรมดา  ส่วนระยะแรกของปี 58 มีการรับรู้คอนโดในกรุงเทพ   รวมทั้งเตรียมเปิดตัว service apartment อีกด้วย  ปีนี้ตั้งเป้ารายได้อย่างน้อย 3 พันล้านบาทมีกำไรขั้นต่ำ 400 ล้านบาท เป็นกำไรดีที่สุดหลังจากขาดทุนบักโกรกมาก่อนหน้านี้  โครงการต่างๆ จะเริ่มสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแล้ว   และคาดว่าจะมีการเปิดตัวพันธมิตรที่ร่วมมือกันด้านระบบก่อสร้างแนวใหม่เร็วๆ  นี้  มาคอยจับตาดูกัน    ส่วนราคาหุ้น่ไหลลงลึกมานาน และเริ่มฟื้นตัวขึ้นเล็กๆ  แนวต้านแรกของรอบนี้ 1.05 บาท ถ้าผ่านได้น่าจะวิ่งยาว เอาว่าตลาดแบบนี้เก็งสั้นขยันซอยไปก่อน