ดาวโจนส์ปิดวานนี้พุ่งกว่า 100 จุด รับคาดการณ์เฟดชะลอขึ้นดบ.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,880.85 จุด พุ่งขึ้น 117.61 จุด หรือ +0.66%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,917.32 จุด เพิ่มขึ้น 30.38 จุด หรือ +0.62% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,080.62 จุด เพิ่มขึ้น 13.66 จุด หรือ +0.66%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 126,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2013 จากระดับ 264,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.5% ในเดือนมี.ค.
นักวิเคราะห์จากบีเอ็มโอ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐชะลอการจ้างงานในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนที่ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวต่อไปอีกยาวนานเพียงใด ดังนั้น การที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.ตามที่ได้มีการส่งสัญญาณเอาไว้นั้น อาจจะต้องเลื่อนออกไป
ด้านนายเดวิด สต็อคตัน อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเฟด (ช่วงปี 2543-2554 ) ซึ่งปัจจุบันเป็นนักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำสถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศปีเตอร์สัน กล่าวว่า มีแนวโน้มมากขึ้นว่าเฟดอาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. พร้อมกับกล่าวว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดไม่ได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ แต่กลับ “ให้ความสนใจกับตลาดแรงงานมากกว่า” เมื่อดูจากแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ 27 มี.ค.
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันสำหรับลูกค้าในเอเชีย โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้นอย่างน้อย 4.4% หุ้นทรานส์โอเชียน ทะยานขึ้น 10% และหุ้นไดอามอนด์ ออฟชอร์ ดริลลิง ปรับขึ้น 5.6% หุ้นเทสลา มอเตอร์ส พุ่งขึ้น 6.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายรถยนต์ในไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้น 55% ซึ่งสูงกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้
ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงสินเชื่อผู้บริโภคเดือนก.พ., รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ประจำวันที่ 17-18 มี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนก.พ., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค. และดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนมี.ค.