“อุชัย” มั่นใจOCEANไฉไลกว่าเดิม 2 กลุ่มทุนใหม่ช่วยต่อยอดธุรกิจ
“อุชัย” มั่นใจ OCEAN ไฉไลกว่าเดิม เหตุ 2 กลุ่มทุนใหม่ "ฟ้าประทาน จิตตรัตน์เสนีย์"-"ผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้าง" ช่วยต่อยอดธุรกิจปี 60 โตแกร่ง
นายอุชัย วิไลเลิศโภคา กรรมการผู้จัดการบริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) หรือ OCEAN เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30-11.00 น. ถึงกรณีถึงกรณีการเข้าถือหุ้นบริษัทของ 2 กลุ่มทุนใหม่ ว่า บริษัทได้รับการติดต่อซื้อหุ้นจำนวน 50 ล้านหุ้นจากผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายหนึ่ง ส่วนนายฟ้าประทาน จิตตรัตน์เสนีย์ ได้ติดต่อเข้าซื้อหุ้นโดยตรงกับนายรัตนชัย วิไลเลิศโภคา ซึ่งเป็นบุตรชายของนายอุชัย วิไลเลิศโภคา
โดยนายฟ้าประทานได้แจ้งกับบริษัทว่า มีความสนใจจะเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทเท่านั้นไม่ได้แสดงเจตจำนงค์จะเข้ารับตำแหน่งกรรมการบริษัทแต่อย่างใด ดังนั้น ปัจจุบันบริษัทจึงมีพาร์ทเนอร์ใหม่เพิ่มขึ้นมา 2 ราย ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีโอกาสในการดำเนินธุรกิจมากขึ้นและสามารถเจริญเติบโตก้าวหน้าได้อย่างข็งแกร่ง นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นยังได้รับประโยชน์โดยตรงอีกด้วย
“การเข้าถือหุ้นของ 2 กลุ่มทุนใหม่ไม่ได้ทำให้บริษัทเสียผลประโยชน์แต่อย่างใดและยังสามารถต่อยอดธุรกิจร่วมกันได้อีกด้วย โดยนายฟ้าประธานประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และอีกหนึ่งกลุ่มทุนใหม่นั้นประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มได้แจ้งกับบริาัทไว้ว่า จะนำสินค้าของบริษัทมาใช้ในการดำเนินธุรกิจต่างๆ ของตนเอง ทั้งนี้ มองว่าการที่ใครจะเข้ามาเป็นถือหุ้นในบริษัทนั้นไม่สำคัญเท่ากับว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์หรือไม่”นายอุชัย กล่าว
อนึ่ง ภายหลังการเข้าซื้อหุ้นบริษัทของนายฟ้าประทาน จิตตรัตน์เสนีย์ ส่งผลให้นายฟ้าประทาน จิตตรัตน์เสนีย์ กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของ OCEAN
โครงสร้างผู้ถือหุ้นอันดับ 1-5 มีดังนี้
ที่มา ตลท. (ภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 07/03/2560)
นอกจากนี้ในปี 60 บริษัทวางแผนลดค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะค่าไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทมีจ่ายค่าไฟฟ้าประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ดังนั้น บริษัทจึงได้ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาเพื่อลดการใช้ไฟฟ้า โดยปัจจุบันบริษัทได้เริ่มใช้งานในส่วนของเฟส 1 ไปแล้วและอยู่ระหว่างการติดตั้งเฟส 2 เพิ่มเติม เนื่องจากหลังการใช้งานเฟส 1 บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 30% จึงหวังว่าเมื่อเริ่มใช้งานเฟส 2 บริษัทจะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้อีก 30%
ทั้งนี้ บริษัทยังได้ทำสัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยเมื่อใดที่การไฟฟ้าเปิดรับซื้อขายไฟฟ้าบริษัทสามารถเข้าร่วมขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าได้ด้วย จึงถือว่าการทำแผงโซล่าเซลล์ดังกล่าวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทอีกทางหนึ่งด้วย