Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย
Daily View - P.M. - บล.กสิกรไทย ประจำวันที่ 21 มี.ค.60
Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย
Tactical Move
เดินเกมกลยุทธ์บ่าย
สรุปภาวะตลาดเช้า
SET Index ปรับขึ้น 6.05 จุด (+0.39%) ปิดภาคเช้าที่ 1,569.59 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 16,327. ลบ.
Most Positive Impact: PTT (+1.16 จุด), PTTGC (+0.80 จุด), AOT (+0.73 จุด)
Most Negative Impact: SCC (-0.49 จุด), MTLS (-0.22 จุด), PTG (-0.14 จุด)
แนวโน้มตลาดบ่าย
ตลาดไทยวันนี้ปรับขึ้นไปพร้อมกับตลาดภูมิภาค ทั้งนี้ มีปริมาณการซื้อขายเพียง 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีที่ 2.4 หมื่นล้านบาทอยู่มาก โดยวันนี้กลุ่มที่นำตลาดเป็นหุ้นกลุ่ม Large-cap วันนี้ยังคงเป็นกลุ่มพลังงาน (+2.41 จุด) นำมาโดย PTT (+1.16 จุด) ถัดมาคือ กลุ่ม Petrochemical (+1.04 จุด) นำมาโดย PTTGC (+0.80 จุด) และกลุ่ม ICT (+0.82 จุด) นำโดย ADVANCE (+0.30 จุด) และ TRUE (+0.17 จุด)
ดอลล่าร์เริ่มรีบาวด์กลับขึ้นมาเล็กน้อย คาดเงินปอนด์ทีเริ่มอ่อนค่า หลังนายกรัฐมนตรี อังกฤษ เทเรซา เมย์ จะประกาศใช้มาตรา 50 ในวันที่ 29 มี.ค.60 จะเป็นแรงหนุนให้ตลาดเงินเริ่มกลับไปให้ความสนใจกับดอลล่าร์สหรัฐฯอีกครั้ง นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาการขึ้นพูดของประธาน Fed นางเจเน็ต เยลเลน ในวันที่ 23 มี.ค.60 นี้ ซึ่งหากดอลล่าร์กลับมาแข็งค่า ก็จะส่งผลให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง โดยวันนี้ ค่าเงินบาทเริมอ่อนค่าโดยปรับขึ้นมาที่ 34.75 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดว่าค่าเงินบาทที่ระดับ 34.5 บาทต่อดอลลาร์น่าจะเป็นการแข็งค่า Peak ที่สุดของบาทในรอบนี้ หลังจากนั้นบาทน่าจะดีดและอ่อนจนไปทดสอบ 35 บาทต่อดอลลาร์อีกครั้ง
SET Index ยังขาดปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ๆ เห็นได้จากการปรับขึ้นของดัชนี SET โดยมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบางกว่าปกติมากทั้งนี้ แม้เราจะมองว่าโอกาศในการขายของต่างชาติจะบรรเทาลง จากที่นักลงทุนต่างชาติได้กลับเข้ามา net long สุทธิกว่า 3 หมื่นสัญญาในวันพฤหัส-ศุกร์ที 16-17 มี.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เรายังคงไม่เห็นกระแสเงินทุนไหลเข้าจากนักลงทุนต่างชาติทั้งในตราสารทุนและตราสารหนี้ ดังนั้น ด้วยสภาวะที่ตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆมาขับเคลื่อนจึงยังคงมองว่าดัชนีไม่น่าจะปรับตัวขึ้นเกิน 1,570 จุดไปได้ไกล โดยบริเวณ 1,570 จุด เป็นระดับที่ Valuation ตึงตัวที่ PER 15 เท่า สำหรับบ่ายนี้ มองกรอบของการเคลื่อนไหวที่ 1560-1573 จุด
กลยุทธ์การลงทุน : ยังคงยึดอยู่กับกลุ่มหุ้นที่มีการเคลื่อนไหว Outperform ตลาด มอง กลุ่มธนาคารฯ พลังงาน การเงิน ค้าปลีก อาหาร โรงพยาบาล เป็นหลัก กลยุทธ์การลงทุนจึงยังให้เน้นถือหุ้นในกลุ่มดังกล่าวเพื่อ Let Profit Run ต่อ โดยกลุ่มธนาคารยังชอบ BBL KTB กลุ่มพลังงานเลือก PTT PTTEP และอื่นๆ KCE TKN MEGA CHG SAWAD
หุ้นแนะนำ: KCE KTB MEGA SAWAD PTTEP
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: –
Alternative Trading:
SET50 Futures: Long S50H17 ที่ 990 จุด เล็งไปทำกำไรที่ 999 จุด และตั้ง stop-loss ที่ 980 จุด