SET บ่ายแกว่งแคบ โบรกฯ ชู 2 หุ้นเด็ด มีปัจจัยหนุน

SET บ่ายแกว่งแคบ อาจเจอ take profit ให้กรอบแกว่งที่ 1,560-1,570 จุด โบรกฯ ชู 2 หุ้นเด็ด มีปัจจัยหนุน นำโดย KKP และ AAV


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (21 มี.ค.) แกว่งแคบคล้ายตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่บวกเล็กน้อย บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา วอลุ่มเทรดโดยรวมบาง ขณะที่กลุ่มพลังงานได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันปรับตัวลง ส่วนกลุ่มแบงก์หลายตัวขึ้นมาสูงแล้วจึงมีแรง take profit ส่วนปัจจัยใน-นอกปท.ไม่มีเรื่องใหม่ รอแค่ความเห็นประธานเฟดหลายสาขาเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ ส่วน Fund Flow เข้ามาในเอเชียแต่ก็ไม่มาก บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งแคบระหว่างทางอาจเจอ take profit บ้าง ให้กรอบแกว่งที่ 1,560-1,570 จุด

น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบและวอลุ่มเทรดถือว่าบาง เนื่องจากความสนใจไม่ได้อยู่ที่ Sector ใหญ่ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานก็ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ส่วนหุ้นกลุ่มแบงก์หลายตัวก็ปรับตัวขึ้นมาสูงแลบ้วในรอบเกือบ 2 ปี ทำให้มีแรง take profit ออกมาบ้าง เช่น KTB เจอ Sell on fact หลังประกาศจ่ายปันผล

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย คล้ายกับตลาดหุ้นไทย ปัจจัยนอกประเทศช่วงนี้มีเพียงการติดตามความเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลายสาขาที่จะไปพูดตามที่ต่าง ๆ เกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจ ส่วนFund Flow แม้ยังไหลเข้ามาในเอเชียบ้างหลังผ่านการประชุมเฟดไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้มากนัก ดังนั้น ผู้เล่นในตลาดฯขณะนี้มีแค่กองทุนกับนักลงทุนรายย่อย

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะแกว่งแคบ และระหว่างทางอาจเจอ take profit บ้าง เพราะปัจจัยในประเทศก็ไม่ได้มีข่าวใหม่ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,560-1,570 จุด          

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (21 มี.ค.) ว่า SET คง momentum ระยะสั้น เพื่อไปทดสอบ 1,580-1,595 จุด เรามองการ rebound ของ SET เป็นลักษณะของ relief rally โดยมีเป้าหมายที่ 1,580-1,595 จุด อย่างไรก็ดี เรามองว่าโอกาสที่ SET จะปรับขึ้นต่อเนื่องทะลุ 1,595 จุด มีจำกัด  จาก valuation ของ SET ยังคงแพง ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลแค่เพียงระยะสั้น แต่ Fed ยังมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะกดดันให้ upside จำกัด แนะนำเพียง “Trading” โดยมี Trailing stop ที่ 1,554 จุด แนะนำซื้อหุ้นที่มี downside ไม่มาก แต่มี momentum ดีอยู่ เช่น KKP (เงินปันผล 9% จะช่วยจำกัด downside risk) AAV (นักท่องเที่ยวจีน ฟื้นตัวแข็งแกร่ง, ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่ม)

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “ซื้อ” AAV มองกำไรไตรมาส 1/60 จะออกมาดี หนุนโดยการฟื้นตัวแรงของจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน และราคาน้ำมันเครื่องบินที่อยู่ในระดับไม่สูง (2M16 ราคาเฉลี่ยที่ US$66 และปัจจุบันอยู่ที่ US$62 ต่ำกว่าสมมติฐานระยะ 2-3 ปี ของเราที่ $US65-72/bbl) ขณะที่คู่แข่งเริ่มชะลอการขยายฝูงเครื่องบิน ส่งผลให้สถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงน่าจะผ่อนคลายลง และ valuation ของ AAV ยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง ที่ PE 13.5x  เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 15x 4) ราคายังปรับตัวขึ้นไม่มาก และทางเทคนิค momentum เริ่มฟื้นตัวดี และทะลุแนวกด downtrend ขึ้นมา มีโอกาสสร้างรูปแบบ triple bottom เพื่อกลับไปทดสอบ 6.75 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

BEM     มูลค่าการซื้อขาย 850.44 ล้านบาท ปิดที่   7.30 บาท ลดลง  0.05 บาท

PTT     มูลค่าการซื้อขาย 662.76 ล้านบาท ปิดที่ 406.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

SCC     มูลค่าการซื้อขาย 637.04 ล้านบาท ปิดที่ 532.00 บาท ลดลง  4.00 บาท

PTTGC   มูลค่าการซื้อขาย 516.40 ล้านบาท ปิดที่  72.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

AOT     มูลค่าการซื้อขาย 448.12 ล้านบาท ปิดที่  39.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

Back to top button