สิทธิชัย ยื่นฟ้องอาญา หมอวิชัย พ่วงแจ้งความเท็จเพิ่มอีก 2 คดี
“สิทธิชัย”ฟ้องอาญา”หมอวิชัย" พ่วง IFEC ฐานฟ้องเท็จแจ้งความเท็จคดี”ขายที่บ้านโพธิ์-ซื้อรร.ดาราเทวี”ตามมาด้วยฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทหลังถูกโยนบาป! กลบปัญหาบริหารงานล้มเหลว ปิดงบไม่ลง
นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า วานนี้ (23 มี.ค.60) ได้มอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้องคดีอาญากับ นายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ IFEC และ IFEC ในความผิดฐานฟ้องเท็จและแจ้งความเท็จใน 2 คดี คือ คดีที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดินที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
โดยกล่าวหาหาว่าตนเอาที่ดินของบริษัทฯยกให้ผู้ซื้อฟรี เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนที่แสวงหาผลประโยชน์ใน IFEC ทั้งๆที่การโอนที่ดินที่ใช้เป็นทางเข้าออกของที่ดินที่บริษัทฯขายให้ผู้ซื้อไปก่อนหน้าแล้ว เป็นเงื่อนไขในการขายที่ดิน ตนและกรรมการบริหารทุกคนทำตามมติบอร์ดและสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินที่นายแพทย์วิชัยเป็นคนลงชื่อขายด้วย
ส่วนเหตุที่ต้องโอนที่ดินให้ผู้ซื้อภายหลัง เพราะเพิ่งแบ่งแยกโฉนดเสร็จหลังจากได้รับเงินค่าขายที่ดินและโอนที่ดินไปให้ผู้ซื้อก่อนแล้ว โดยศาลจังหวัดฉะเชิงเทรารับฟังเป็นคดีหมายเลขดำที่ 1313/2560 นัดไต่สวนมูลฟ้อง 14 มิถุนายน 2560
ส่วนคดีที่ 2 คือ กรณีที่กล่าวหาว่า ตนซื้อโรงแรมดาราเทวีมาในราคาที่แพงเกินจริง ทั้งๆ ที่การซื้อโรงแรมผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งเป็นบริษัทที่นายแพทย์วิชัย เป็นผู้มอบหมาย และที่สำคัญกระบวนการตัดสินใจต่างๆ ผ่านการพิจารณาของบอร์ด มีการรายงานตลาดหลักทรัพย์ฯและเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศอย่างถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้ โดยศาลอาญากรุงเทพใต้รับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ 956/2560 นัดไต่สวนมูลฟ้อง 19 มิถุนายน 2560
“ถ้าบอกว่าซื้อโรงแรมดาราเทวี ในราคาที่แพงเกินจริง แล้วตอนนี้นายแพทย์วิชัย บอกว่ามีพันธมิตรจากจีน 2-3 ราย สนใจเข้ามาติดต่อซื้อโรงแรมมูลค่า 5-6 พันล้านบาท จนถึงขั้นมีการเซ็น เอ็ม.โอ.ยู.ส่วนตัวแล้ว ซึ่งถ้าขายได้จริง IFEC จะมีกำไรจากการซื้อโรงแรมมาแล้วขายไปมากกว่าพันล้านบาท แล้วอย่างนี้ถือว่าซื้อมาในราคาที่แพงกว่าความจริงอย่างที่นายแพทย์วิชัยกล่าวหาผมได้อย่างไร” นายสิทธิชัยกล่าว
นอกจากฟ้องคดีอาญาทั้งสองเรื่องแล้ว ยังเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทอีกทางหนึ่งด้วย
“ผมจำเป็นต้องฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีอาญา และคดีแพ่ง กับนายแพทย์วิชัย เพราะที่ผ่านมาได้อาศัยความเป็นประธานกรรมการบริษัท IFEC ให้ข้อมูลกล่าวร้ายผมมาโดยตลอด ทั้งๆที่ผมได้ลาออกจากตำแหน่งผู้บริหาร IFEC มาเป็นเวลากว่า 4 เดือน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบี/อี การปิดงบปี 2559 ไม่ได้ ซึ่งผมต้องการบอกความจริงให้สังคมได้รับรู้ว่า สิ่งที่นายแพทย์วิชัยกล่าวอ้างไม่เป็นความจริง
ผมจึงได้ฟ้องต่อศาลเพื่อให้ดำเนินคดีฐานฟ้องเท็จ ซึ่งนอกเหนือจาก 2 คดีนี้แล้ว ยังมีอีกหลายคดีที่ผมเตรียมยื่นฟ้อง ซึ่งได้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน และเอกสารต่างๆไว้เรียบร้อยแล้ว แม้จะมีความยากลำบากในการรวบรวมเอกสาร เนื่องจากมีการขัดขวางของชายชุดดำที่นายแพทย์วิชัยจ้างมาเพื่อตรวจสอบคนเข้าออกใน IFEC” นายสิทธิชัย กล่าว
นายสิทธิชัย กล่าวว่า ตลอดเวลา 3-4 เดือนที่ผ่านมา แทนที่นายแพทย์วิชัยจะทุ่มเวลาทำงานในฐานะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯที่ต้องรับผิดชอบการบริหารงาน กลับเสียเวลาไปกับการออกมากล่าวหากลุ่มโน้นกลุ่มนี้ ไม่ควรเล่นเกมอยู่แบบนี้ ที่มีแต่สร้างความเสียหายให้กับบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น ไม่รู้เหมือนกันว่าการที่นายแพทย์วิชัยไม่ยอมลงจากตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท เป็นเพราะนั่งทับอะไรอยู่ จึงต้องขัดขวางการเข้ามาทำงาน หรือการตรวจสอบของคณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้บริษัทฯไม่สามารถปิดงบการเงินปี 2559 ได้ตามกำหนด
“โจทย์ใหญ่ที่ผู้บริหารชุดใหม่ IFEC ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วนคือ การแก้ปัญหาหนี้ตั๋วบีอี และหุ้นกู้ ที่มีอยู่หลายพันล้านบาทในขณะนี้ ซึ่งบางส่วนมีความจำเป็นต้องเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ และขอยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไป เพื่อที่จะทำให้บริษัทฯมีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ และเร่งปิดบัญชีงบการเงินในปี 2559 ให้ได้
พร้อมกับต้องเร่งส่งแผนดำเนินธุรกิจไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อขอให้มีปลดเครื่องหมายห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว หรือ SP แล้วเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจให้กับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง” นายสิทธิชัย กล่าว