NWR เป้ารายได้ปี 60 โตกว่า 10% ตุน backlog กว่า 1.4 หมื่นลบ.

NWR เป้ารายได้ปี 60 โตกว่า 10% ตุน backlog กว่า 1.4 หมื่นลบ.


นายวิสุทธิ์ สุวรรณวิทย์เวช รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายธุรกิจใหม่และวางแผนกลยุทธ์ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR  เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนทำได้ 8,399.41 ล้านบาท จาก ณ สิ้นปี 59 มีงานในมือคงเหลือ (Backlog) อยู่ที่ 14,592 ล้านบาท คาดหวังจะได้รับงานดังกล่าวราว 10% ขณะที่ตั้งเป้าทั้งปีจะได้รับงานใหม่มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท จากปีก่อนได้รับงานใหม่มูลค่า 9,259 ล้านบาท โดยคิดเป็นสัดส่วนรายได้จากภาครัฐราว 90% และที่เหลือเป็นเอกชน

บริษัทตั้งเป้าจะหางานใหม่เข้ามาอีก 1 หมื่นล้านบาทในปีนี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มูลค่ารวม 55,527 ล้านบาท แบ่งเป็นงานโครงการรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ และงานท่าเรือ รวมถึงงานรถไฟในประเทศกัมพูชา เป็นต้น ส่วนงานภาคเอกชน ได้แก่ งานก่อสร้างโรงพยาบาล และงานอาคาร โดยคิดเป็นสัดส่วนงานภาครัฐราว 80% และเอกชน 20%

ส่วนกรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ทบทวนเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) ของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางใหม่ ให้สอดคล้องกับคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซูเปอร์บอร์ด) เพื่อให้ผู้รับเหมาขนาดกลางและขนาดเล็กได้มีโอกาสเข้ามาร่วมแข่งขันมากขึ้น บริษัทฯมองว่าการปรับปรุง TOR ดังกล่าวน่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปรับงานได้มากขึ้น และคงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวโครงการมากนัก โดยคาดว่าการปรับปรุง TOR และการประมูลจะแล้วเสร็จภายในปีนี้

นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปีนี้น่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากภาครัฐได้ผลักดันโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development หรือ EEC) ด้วยการจัดให้มีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่งทั้งระบบ และแผนดำเนินการด้านผังเมือง การพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียว เป็นต้น คาดว่าจะมีมูลค่าลงทุนรวมราว 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งบริษัทฯก็มองโอกาสที่จะเข้าร่วมประมูลงานในโครงการดังกล่าวด้วย

“ปีนี้ก็ถือว่าเป็นปีที่ดีของเรา จากที่ภาครัฐมีการเปิดประมูลงานออกมามากขึ้น ประกอบกับการเปิดประมูลงานโครงการขนาดใหญ่อย่าง EEC ใน 3 จังหวัด ที่ถือได้ว่ามีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เช่น การพัฒนาสนามบินต่างๆ ,รถไฟ ,มอเตอร์เวย์ ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างอย่างมาก ขณะที่ปีนี้เราก็จะโฟกัสงานภาครัฐเป็นหลัก จากการติดตามการประมูลงานอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าจะได้รับงานใหม่ในปีนี้มูลค่า 10,000 ล้านบาท และวางงบลงทุนเครื่องจักรปีนี้ 120 ล้านบาท”นายวิสุทธิ์ กล่าว

ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คาดว่า รายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ราว 5% และยอดโอนที่ราว 700-800 ล้านบาท โดยโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ดำเนินร่วมกับบริษัท ซี.ไอ.เอ็น.เอสเตท จำกัด ซึ่งบริษัทย่อยของ NWR คือ บริษัท มานะพัฒนาการ จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วน 40% นั้น ปัจจุบันยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย ได้แก่ ดิ อิสระ ลาดพร้าว มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท ขายไปแล้ว 99.29% โอนแล้ว 99.29% ,อิสซี่ คอนโด สุขสวัสดิ์ มูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท ขายไปแล้ว 75% โอนแล้ว 65.47% และ บ้านอิสสระ บางนา มูลค่า 2,600 ล้านบาท เปิด Presales ไปเมื่อวันที่ 8 ส.ค.59 อยู่ระหว่างการสร้างบ้านตัวอย่าง

ขณะที่โครงการที่บริษัทฯดำเนินการพัฒนาเอง คือ วิลล่า บารานี มูลค่า 630 ล้านบาท ขายไปแล้ว 96% โอนแล้ว 95% คาดว่าจะปิดโครงการได้ไม่เกินไตรมาส 2/60

ส่วนโครงการที่ดำเนินการโดยบริษัท มานะพัฒนาการ จำกัด ได้แก่ บารานี พาร์ค มูลค่า 1,000 ล้านบาท ขายไปแล้ว 25% โอนแล้ว 5% ,เอสเพน คอนโด ลาซาน มูลค่า 780 ล้านบาท ขายไปแล้ว 80% (เฟส A) คาดว่าจะเริ่มโอนได้ในไตรมาส 3/60 ,บารานี เรสซิเดนซ์ มูลค่า 850 ล้านบาท ขายไปแล้ว 10% โอนแล้ว 4.38% จะเปิด Presales ในวันที่ 13-14 พ.ค.60

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า บริษัทยังคงมองหาพื้นที่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ยังคงเน้นในพื้นที่เดิม เช่น บางนา รังสิต ร่มเกล้า เป็นต้น เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ดังกล่าว วางงบลงทุนซื้อที่ดินไว้ราว 100-200 ล้านบาทในปีนี้

ส่วนโรงงานพรีคาสต์ ในจังหวัดชลบุรี ภายใต้ บริษัท แอ็ดวานซ์ พรีแฟบ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NWR ปีนี้ตั้งเป้ารายได้กว่า 400 ล้านบาท โดยจะเข้ารับงานภาคเอกชนเป็นหลัก และคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในปีนี้ ปัจจุบัน มีกำลังการผลิตรวมกว่า 10,000 ลูกบาศก์เมตร/เดือน ขณะเดียวกันธุรกิจอาหารสำเร็จรูปภายใต้บริษัท Taste Maker Co.,Ltd  ที่เน้นการส่งออกอาหารในรูปแบบอาหารสำเร็จรูปไปยังต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งปีนี้อาจจะยังไม่เห็นสัดส่วนรายได้เข้ามามากนัก อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเปิดกว้างในการลงทุนธุรกิจใหม่ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจ

พร้อมกันนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อออกหุ้นกู้ชุดใหม่ทดแทนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดอายุ ซึ่งมีมูลค่าราว 1,500 ล้านบาท

 

Back to top button