PJW ปรับเป้ารายได้ปีนี้โตลดลงเหลือ 3-5% มุ่งขยายการเติบโตในจีน

PJW ปรับเป้ารายได้ปีนี้โตลดลงเหลือ 3-5% จากเดิมคาด 5-10% หลังอุตฯรถยนต์ฟื้นตัวช้า มุ่งขยายการเติบโตในจีน คาดหวังรายได้จากจีนโต 20-30%


นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปีนี้ลงมาเหลือเติบโต 3-5% จากเดิมคาดว่าจะเติบโตราว 5-10% จากปีก่อนที่ทำรายได้ 2,757.32 ล้านบาท หลังอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และชิ้นส่วนรถยนต์ช่วงต้นปียังคงทรงตัว เนื่องจากค่ายรถยังไม่ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ (New model) มากนัก

อย่างไรก็ตาม น่าจะเห็นการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป โดยเฉพาะปีหน้าจะมีรถยนต์โมเดลใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาพอสมควร ซึ่งบริษัทก็ได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อทดแทนเครื่องจักรเก่า และรองรับโมเดลใหม่ๆ ที่จะเข้ามาไว้แล้ว รวมถึงการวางแผนเพิ่มกำลังการผลิต วางงบลงทุนในประเทศไว้ที่ 150 ล้านบาท

โดยในปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นการเติบโตในประเทศจีนด้วย โดยคาดว่ารายได้จากจีนจะเติบโตได้ถึง 20-30% ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้รวมเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยสัดส่วนรายได้จากจีนคิดเป็น 2% ของรายได้รวม ซึ่งแผนก่อสร้างโรงงานใหม่ที่มณฑลเทียนจิน ประเทศจีน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 200-300 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 3/60 และแล้วเสร็จปลายปีนี้ เพื่อรองรับการผลิตสินค้าให้กับลูกค้า

ขณะที่ธุรกิจโรงพ่นสีในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จ.ชลบุรี บริษัทคาดว่าในปีนี้มีแนวโน้มการขาดทุนลดลง และน่าจะถึงจุดคุ้มทุนในปี 61 เนื่องจากงานใหม่ๆ ที่ทยอยเข้ามาเป็นงานที่เตรียมไว้ขายเชิงพาณิชย์ในปีหน้า ซึ่งยังต้องมีต้นทุนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วง 3 เดือนแรก ทำให้ส่งผลกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ แต่อย่างไรก็ตาม มองว่ายอดขายที่เริ่มทยอยเข้ามาจะทำให้ผลประกอบการดีขึ้นในปี 61-62 หรือจะเติบโตได้ราว 7% และ 10% ตามลำดับ

“ในอนาคตยอดขายประเทศจีน จะมีความสำคัญในการผลักดันรายได้รวมของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งในปีนี้บริษัทฯก็มีการมุ่งเน้นการเติบโตในประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจโรงพ่นสีและชิ้นส่วนยานยนต์ บริษัทฯยังมุ่งเน้นการควบคุมต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง และจะส่งผลให้ผลประกอบการในปีนี้ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับในปี 61-62 ที่จะมียอดขายผลิตภัณฑ์เข้ามาก็น่าจะทำให้ผลการดำเนินงานของชิ้นส่วนยานยนต์และโรงพ่นสีดีขึ้นตามลำดับ ขณะที่ยอดขายบรรจุภัณฑ์ในประเทศคงเติบโตตาม GDP ของประเทศเป็นหลัก เพราะเป็นอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐาน” นายวิวรรธน์ กล่าว

 

Back to top button