SIRI คาด Q1/60 ยอดขาย 7 พันลบ.สูงกว่า Q1/59 จากผลตอบรับโครงการใหม่ดี
SIRI คาด Q1/60 ยอดขาย 7 พันลบ.สูงกว่า Q1/59 จากผลตอบรับโครงการใหม่ดี
นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ยอดขายรวมในไตรมาส 1/60 คาดว่าจะทำได้ 7 พันล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำยอดขายได้ 4-5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดขายโครงการ 98 Wireless ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าและทำยอดขายใด้ในระดับสูง
ขณะที่โครงการแนวราบได้เปิดโครงการทาวน์โฮมใหม่ไป 2 โครงการ และสามารถทำยอดขายได้ในระดับสูงเช่นเดียวกัน โดยยอดขายของโครงการแนวราบปัจจุบันทำได้แล้ว 3 พันล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายโครงการแนวราบในปีนี้ 1.5 หมื่นล้านบาท และบริษัทยังเชื่อมั่นว่ายอดขายรวมในปีนี้จะทำได้ตามเป้าที่ 3.6 หมื่นล้านบาท
แนวโน้มภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไนปัจจุบันถือว่ามีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากชะลอตัวไปในช่วงปลายปีก่อน อีกทั้งแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยที่เข้าสู่ช่วงขาขึ้นนั้นเป็นปัจจัยที่ช่วยเร่งการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของประชาชน เพราะหากซื้อหลังดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นแล้ว จะทำให้ภาระการผ่อนชำระของผู้ซื้อสูงขึ้นตาม อีกทั้งแนวโน้มความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น หลังจากภาวะเศรษฐกิจในปีนี้มีโอกาสฟื้นตัวขึ้น จากการลงทุนภาครัฐเป็นปัจจัยกระตุ้น ทำให้การตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์มีมากขึ้นเช่นเดียวกัน
นายเมธา กล่าวว่า บริษัทวางแผนเปิดโครงการแนวราบใหม่ไนปี 60 จำนวน 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.93 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่า 1.85 หมื่นล้านบาท และโครงการทาวน์เฮาส์และช้อปเฮาส์ 2 โครงการ มูลค่า 800 ล้านบาท โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดโครงการทาวน์เฮาส์และช้อปเฮาส์ 2 โครงการไปแล้ว คือ โครงการ SIRI AVENUE สายไหม จำนวน 16 ยูนิต ซึ่งสามารถขายได้หมดภายใน 2 ชั่วโมง และโครงการ Garden Square ตั้งอยู่ใน T77 มีจำนวน 35 ยูนิต โดยปัจจุบันขายได้แล้ว 70% หรือจำนวนที่ขายไปแล้ว 25-26 ยูนิต
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/60 บริษัทเตรียมเปิดขายโครงการใหม่อีก 2 โครงการ ที่เป็นโครงการบ้านเดี่ยวไนกรฺงเทพฯ คือ โครงการบุราสิริ วัชรพล ที่เตรียมเปิดในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ และโครงการคณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนา ซอยวัดพระเงิน และส่วนโครงการที่เหลืออีก 7 โครงการ จะเปิดในช่วงครึ่งปีหลัง
กลยุทธ์การขายโครงการแนวราบของบริษัทในปีนี้จะเน้นการรุกขยายกลุ่มลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยเป็นรูปแบบการขายแบบให้เช่าระยะยาว โดยเฉพาะโครงการในหัวเมืองท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งบริษัทได้เริ่มให้เช่ากับลูกค้าต่างชาติตั้งแต่ปีก่อนผ่านเอเยนต์ โดยเสนอปล่อยเช่าระยะยาวให้กับลูกค้าชาวจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ ในโครงการบุราสิริ สันผีเสื้อ เชียงใหม่ ซึ่งปล่อยเช่าให้กับลูกค้าต่างชาติในปีก่อน 15 ยูนิต และจะมีการเสนอปล่อยเช่าเพิ่มอีกในปีนี้ โดยในปี 60 บริษัทได้วางเป้ายอดขายจากลูกค้าต่างชาติ 7.5 พันล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อน 5 พันล้านบาท
ส่วนกรณีภาษีที่ดินที่จะมีผลบังคับใช้ใน 2 ปี บริษัทมองว่าจะส่งผลกระทบในเชิงลบกับบริษัทเรื่องที่ดินว่างเปล่า แม้รัฐบาลจะช่วยปรับภาษีลดลงในช่วง 3 ปีแรก แต่ปกติการพัฒนาโครงการของบริษัทจะใช้ระยะเวลาเฉลี่ย 5 ปี ทำให้บริษัทต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นในช่วง 2 ปีที่เหลือ ซึ่งอาจส่งผลต่อการปรับราคาขายและจะกระทบต่อลูกค้าที่ซื้อโครงการ อย่างไรก็ตามบริษัทจะยังพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิและอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ 10% และ 30% ตามลำดับ