“ทวิช” ยันไม่คิดยื้อเกม IFEC เตรียมเรียกประชุมใหม่เอง

นายทวิช เตชะนาวากุล เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการของบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30 – 11.00 น. ถึงกรณีที่วานนี้ (29 มี.ค.) ตนไม่เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริษัท (ฉุกเฉิน) ครั้งที่ 1/2560 โดยให้เหตุผลว่า การประชุมฉุกเฉินต้องเป็นการเรียกประชุมเพื่อรักษาสิทธิหรือผลประโยชน์ของบริษัทเท่านั้น ไม่ใช่เรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อพิจารณาหรือให้การรับรองการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

โดยหากเป็นการเรียกประชุมเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทก็พร้อมที่จะเข้าร่วมประชุม เพราะยินดีเข้ามาเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาของบริษัท ขณะเดียวกันตนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ซึ่งหากเกิดความล่าช้าความเสียหายก็จะมากขึ้นตามสัดส่วน

ทั้งนี้การที่ตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมไม่ได้หมายความว่าจะยื้อเวลา “หากคิดว่าผมยื้อ ทำไมผมต้องจำเป็นต้องเข้าไปซื้อหนี้ตั๋ว บี/อี จำนวน 100 ล้านบาท ของบลจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ เข้าไปก็เจ็บตัวเปลืองตัวเปล่าๆ” นาย ทวิช กล่าว

ขณะเดียวกันนายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการบริษัท ได้แจ้งว่า การประชุมในวันที่ 15 มี.ค.นั้นถูกต้องตามกฎหมาย และได้กำหนดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 18 เม.ย. ตนจึงมองว่าวานนี้ (29 มี.ค.) นายแพทย์วิชัย จะเรียกประชุมเพื่ออะไร ซึ่งการจัดการประชุมต้องแจ้งล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 5 วัน และหากมีการประชุมที่ถูกต้อง ตนยินดีที่จะเข้าร่วมประชุมอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ตนมองว่าการเรียกประชุมฉุกเฉินนั้นต้องเป็นเรื่องที่รักษาสิทธิหรือผลประโยชน์ของบริษัท อย่างเช่น เรื่องงบการเงิน ที่ต้องรีบมาประชุมเพื่อรับรองพิจารณาเพื่อให้ส่งตลาดหลักทรัพย์ให้ทันสิ้นเดือนตามที่ได้ขอผ่อนผัน จึงจะเรียกว่าเป็นผลประโยชน์ต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น แต่การเรียกประชุมในวันที่ 18 เม.ย. นั้น เป็นการเรียกประชุมเพื่อกำหนดวาระต่างๆ และประเด็นสำคัญคือเลือกตั้งกรรมการใหม่ทดแทนกรรมการเก่าของตนที่ออกไปตามวาระ

“บริษัทมองแต่จะช่วงชิงอำนาจ ใช้โอกาสในขณะที่ตนเองมีอำนาจอยู่จัดเลือกตั้งให้เร็วที่สุด เพื่อตัวเองจะได้กรรมการเพิ่มอีก 1 คน จะได้ตัดกลุ่มของตนออกไปทั้งหมดเลย” นายทวิช กล่าว

อย่างไรก็ตามตนและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. มีความเห็นตรงกันว่า การประชุมเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นการประชุมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ดังนั้นจึงต้องการทำให้การประชุมนั้นถูกต้องตามกฎหมาย จึงมีเจตนาที่จะจัดประชุมใหม่ในเร็วๆนี้ ซึ่งตนจะออกหนังสือเพื่อให้ประธานเรียกประชุมเอง