BANPU บวกแรง 3% รับผลดีราคาถ่านหินนิวไฮในรอบ 3 เดือน
BANPU บวกแรง 3% รับผลดีราคาถ่านหิน New high ในรอบ 3 เดือน ล่าสุด ณ เวลา 11.27 น. อยู่ที่ระดับ 20.60 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 3% สูงสุด 20.80 บาท ต่ำสุด 20.40 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.17 พันล้านบาท ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะเก็งกำไร BANPU ชูเป้า 23.5 บาท คาดกำไรปีนี้โตโดดเด่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าราคาหุ้นบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ณ เวลา 11.27 น. อยู่ที่ระดับ 20.60 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 3% สูงสุด 20.80 บาท ต่ำสุด 20.40 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.17 พันล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.07%
โดย บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ แนะเก็งกำไร BANPU ให้ราคาเป้าหมายที่ 23.5 บาท/หุ้น อิง EV/EBITDA ที่ 9.2x ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีในช่วงที่ราคาถ่านหินปรับตัวลดลง เทียบ implied PBV ที่ 1.55 เท่าและ PER ที่ 18.6 เท่า
โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 1/60 มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงเทียบจากไตรมาสก่อน จากปริมาณการขายและราคาขายทรงตัว แต่ภาพรวม กำไรสุทธิไตรมาส 1/60 จะเติบโตสูง 348% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของ BANPU ที่คาดว่าจะอยู่ที่ US$70-75/ton สูงขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ราว US$63/ton
อนึ่งราคาถ่านหินวานนี้ +10.83% อยู่ที่ระดับ 89.50 เหรียญ เป็น New high ในรอบ 3 เดือน แรงหนุนจากพายุไซโคลนเข้าถล่มรัฐควีนส์แลนด์ ผนวกกับจ่ายปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น (ขึ้นXD วันที่ 10 เม.ย.17)
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำเก็งกำไร BANPU ให้ราคาเหมาะสม 22.20 บาท/หุ้น โดยคาดว่าหุ้นกลุ่มถ่านหินจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากราคาถ่านหินล่วงหน้าเมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้นโดดเด่นทั้ง 3 ตลาด ได้แก่ Rotterdam +3.7%, Richard Bay +5.5% และ New Castle +6.2% เนื่องจากตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนเดือน มี.ค.ออกมาดีกว่าคาดการณ์เป็น 51.8 จุด และ UBS ปรับเพิ่มมุมมองเชิงบวกต่อราคาถ่านหิน
ทั้งนี้คาดว่ากำไรสุทธิ BANPU ไตรมาส 1/60 จะเติบโตเด่น เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่เห็นผลบวกเต็มที่จากราคาถ่านหินที่ไต่ระดับขึ้นตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/59 ที่ผ่านมา ส่งให้ราคาขายเฉลี่ยเติบโตสูงเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน
ส่วนทิศทางผลประกอบการปี 60 คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตสูงถึง 309% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 9,116 ล้านบาท จากราคาถ่านหินเฉลี่ยในปี 60 ที่เพิ่มขึ้น ราว 10-15% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น US$75.00/ตัน และได้ทำสัญญาซื้อขายถ่านหินของอินโดนีเซียในปี 60 ไปแล้ว 61% จึงมี Downside Risk ของประมาณการกำไรที่จำกัด