TPIPP เปิดเทรดวันแรกหลุดจอง ฟากโบรกฯ มองเป็นจังหวะ “ซื้อ”
TPIPP ลงสนามวันแรกเปิดที่ 6.75 บาท จาก IPO 7 บาท ล่าสุด ณ เวลา 10.00 น. ราคาอยู่ที่ 6.75 บาท ลบ 0.25 หรือ 3.57% สูงสุดที่ 7.05 บาท ต่ำสุดที่ 6.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.45 พันล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ณ เวลา 10.00 น. ราคาอยู่ที่ 6.75 บาท ลบ 0.25 หรือ 3.57% สูงสุดที่ 7.05 บาท ต่ำสุดที่ 6.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.45 พันล้านบาท
ทั้งนี้ TPIPP เข้าซื้อขายในวันนี้ (5 เม.ย.) เป็นวันแรก โดยราคา IPO อยู่ที่ 7 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) และบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
โดย นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานกรรมการ TPIPP เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) เป็นวันแรกในวันที่ 5 เม.ย.นี้ โดยใช้ชื่อย่อว่า TPIPP ในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ โดยบริษัทได้เปิดให้จองซื้อหุ้น IPO เมื่อวันที่ 24 และ 27-29 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก โดยแสดงความต้องการจองซื้อหุ้นสูงเกือบ 7 เท่าของจำนวนที่เปิดให้นักลงทุนแสดงความต้องการจองซื้อ (Book Building) จึงเป็นการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจของ TPIPP และโอกาสการเติบโตที่ดีในอนาคต
ทั้งนี้บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 8,400 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 8,400 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเสนอขาย IPO จำนวนไม่เกิน 2,500 ล้านหุ้น แบ่งเป็น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของ TPIPL จำนวน 125 ล้านหุ้น และขายให้ประชาชนทั่วไป จำนวน 2,375 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างทางธุรกิจของกลุ่ม โดยแบ่งแยกธุรกิจโรงไฟฟ้าจากบริษัทแม่ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL ให้ชัดเจน และปรับโครงสร้างทางการเงิน โดยลดภาระหนี้สินของกลุ่ม TPIPL
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 30 มี.ค.60 มีมติไม่จำหน่าย โอน หุ้นสามัญของบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ทั้งจำนวน 5,899,999,300 หุ้น เป็นเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้น TPIPP เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนที่จองซื้อหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของ TPIPP และยังเป็นการแสดงเจตนารมย์ของบริษัทในการถือหุ้นระยะยาวใน TPIPP
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติเปลี่ยนนโยบายการบัญชี สำหรับการตีราคาที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ จากวิธีการตีราคาใหม่เป็นวิธีราคาทุน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.60 การเปลี่ยนนโยบายการบัญชีดังกล่าว จะส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้น (องค์ประกอบการอื่นของส่วนของผู้ถือหุ้น) ลดลงจำนวน 1.83 หมื่นล้านบาท (ประกอบด้วยสินทรัพย์ลดลงในส่วนของบัญชีที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ จำนวน 2.29 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ด้านหนี้สินลดลงในส่วนของบัญชีหนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีจำนวน 4.58 พันล้านบาท)
โดยภายหลังการเปลี่ยนนโยบายการบัญชีดังกล่าว บริษัทจะไม่มีภาระในการรับรู้ค่าเสื่อมราคาของส่วนเกินทุนจากการตีราคาสินทรัพย์เป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จขของบริษัท จำนวนประมาณ 1.3 พันล้านบาท/ปี อีกต่อไป
นอกจากนี้ นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ ระบุว่า ในแง่ของปัจจัยพื้นฐานมองว่าเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ เนื่องจากทั้ง TPIPL และ TPIPP เป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ในระดับใกล้เคียงกัน และถ้าค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) ปรับขึ้น ก็จะส่งผลให้ TPIPP ได้รับประโยชน์ โดยมีโอกาสที่จะปรับราคาเป้าหมายของ TPIPP ขึ้นเป็น 8.70 บาท จากขณะนี้ที่ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 8.1 บาท