PTT จับมือสวทช.พัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเล่ย์ จ.ระยอง เป็นเขต EEC

PTT จับมือ สวทช. พัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเล่ย์ จ.ระยอง เป็นเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หวังยกระดับในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรม รวมไปถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนในเขตพื้นที่


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าร่วมเป็นเกียรติใน “พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก” ณ ห้องประชุมอาคารที่พักผู้โดยสาร การท่าอากาศยานอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยมี นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และนายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. ร่วมลงนามความร่วมมือการใช้พื้นที่วังจันทร์วัลเล่ย์ ของ ปตท. เพื่อสนับสนุนการพัฒนา “เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก” (Eastern Economic Corridor of Innovation : EECi)

ทั้งนี้ ปตท. ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบนพื้นที่ 3,000 ไร่ ณ วังจันทร์วัลเล่ย์ ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถาบันการศึกษาด้านวิจัยและวิทยาศาสตร์ ได้แก่ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ และ สถาบันวิทยาสิริเมธี ให้เอื้อต่อการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรม โดยผนวกแนวคิดทางด้านนวัตกรรม (Innovation) และระบบนิเวศ (Eco System) เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่ง ปตท. ได้ก่อสร้างแนวถนนหลัก รวมถึงจัดเตรียมระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่สำคัญ เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวในเบื้องต้นแล้ว

โดยปตท. และ สวทช.จะร่วมกันพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นศูนย์วิจัยแห่งนวัตกรรม ปรับปรุงกระบวนการผลิตระดับห้องปฏิบัติการไปสู่กระบวนการผลิตในอุตสาหกรรม พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ครบวงจร ตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นทางถึงปลายทาง โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกจะเป็นการพัฒนาร่วมกับ สวทช. บนพื้นที่ประมาณ 350 ไร่ และการพัฒนาพื้นที่แบ่งออกเป็น 3 พื้นที่หลัก ได้แก่

พื้นที่กลุ่มอาคารงานวิจัยและทดสอบ (Buildable Area & Test Bed)  พัฒนาโดย สวทช. เป็นหลัก โดยมีบริษัทในกลุ่ม ปตท. อาทิ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC และบริษัท โกลบอล กรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ให้การสนับสนุน รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลางและการพาณิชย์ (Recreation Area & Commercial Zone) และพื้นที่พัฒนาเพื่อความยั่งยืนและพื้นที่สีเขียว (Sustainable and Usable Green Area)

ทั้งนี้ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ปตท. เป็นผู้ดำเนินการติดตั้ง Solar farm เพื่อผลิตพลังงานใช้ภายในพื้นที่ด้วย

นายณรงค์ กล่าวว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับกิจกรรมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมในพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก EECi ในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรม พัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนในเขตพื้นที่ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อันนำไปสู่การเป็นศูนย์กลางของการพัฒนานวัตกรรมของอาเซียน (Asean Innovation Hub) ในอนาคต และตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต่อไป

ขณะที่นายเทวินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปตท. พร้อมให้ความสนับสนุนองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ตามกรอบความร่วมมือ เพื่อพัฒนาและผลักดันให้ EECi บรรลุวัตถุประสงค์และเกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างประชารัฐอย่างเป็นเอกภาพ โดยในพื้นที่ส่วนที่ 2 และ 3 ยังเปิดพื้นที่ให้เอกชนที่สนใจเข้ามาร่วมพัฒนาด้วย เพื่อร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไป

Back to top button