“โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง”ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 150 ล้านหุ้น เข้า SET
"โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง"ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 150 ล้านหุ้น เข้า SET ใช้ขยายธุรกิจ
บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) version แรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 19 เม.ย.60 เนื่องจากบริษัทต้องการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น และมีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บล.ธนชาต เป็นที่ปรึกษทางการเงิน
วัตถุประสงค์การใช้เงิน เพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการแพทย์ ซึ่งขึ้นอยู่กับโอกาสทางธุรกิจ และความเหมาะสมในการลงทุนในอนาคต อาจรวมถึงการขยายธุรกิจโดยการเข้าซื้อกิจการอื่นด้วย
โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ มีอุปรณ์ทางการแพทย์ทันสมัย ครบวงจร มีขอบเขตการให้บริการครอบคลุมจังหวัดตรัง จังหวัดกระบี่ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง
นอกจากตัวโรงพยาบาลหลักที่ตั้งอยู่ในจังหวัดตรังแล้ว บริษัทยังมีบริษัทย่อยได้แก่ บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ในบริเวณจังหวัดกระบี่อีกด้วย โดยปัจจุบันบริษัทย่อยมีคลินิกไว้รองรับบริการผู้ป่วยในนาม คลินิกเวชกรรมอินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นคลินิกที่ให้บริการผู้ป่วยนอกเพียงอย่างเดียว ตั้งอยู่ในจังหวัดกระบี่ โดยบริษัทถือหุ้นในบริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง จำกัด 90.03%
โครงการในอนาคต บริษัทฯได้วางแผนการลงทุนจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการสร้างโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง บนที่ดินขนาด 9 ไร่ เป็นอาคารขนาด 4 ชั้น พื้นที่ 8,000 ตารางเมตร คาดว่าจะใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการทั้งสิ้น 450 ล้านบาท โดยบริษัทวางแผนใช้เงินส่วนทุนและเงินกู้ในสัดส่วน 50:50 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 2/60 ปัจจุบันได้ร่างแบบอาคารแล้วและอยู่ระหว่างการหาผู้รับเหมา คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 2/61
2) โครงการขยายโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง โดยการก่อสร้างอาคารใหม่บนพื้นที่ ซึ่งอยู่ติดกับที่ตั้งของโรงพยาบาลในปัจจุบันและปรับปรุงอาคารเดิม คาดว่าจะใช้เงินรวม 373 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการจากปัจจุบันจำนวน 120 เตียง เป็น 245 เตียง และเพิ่มคลินิกเฉพาะทางต่าง ๆ โดยบริษัทจะเริ่มดำเนินโครงการในไตรมาส 3/60 และคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในไตรมาส 3/63
นอกเหนือจากการลงทุนทั้ง 2 โครงการแล้ว บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจโรงพยาบาล อาทิ การสร้างโรงพยาบาลใหม่ และ/หรือลงทุนเข้าซื้อหรือควบรวมกิจการโรงพยาบาลอื่นที่อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในเขตจังหวัดภาคใต้ เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายพื้นที่การให้บริการทางการแพทย์ที่ทันสมัยและครบวงจร
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 59 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 631.26 ล้านบาท หนี้สินรวม 280.29 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 350.97 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล 542 ล้านบาท เติบโตจากจากปี 58 ที่มีรายได้ 476.54 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยใน 67% และผู้ป่วยนอก 33% และ มีกำไรสุทธิ 72.24 ล้านบาท เติบโตจาก 43.47 ล้านบาทในปี 58
ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 300,000,000 บาท โดยเป็นหุ้นสามัญจำนวน 450,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และมีทุนที่เรียกชำระแล้ว 225,000,000 บาท โดยภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทฯจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 300,000,000 บาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 600,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 มี.ค.60 คือ กลุ่มครอบครัว ลีละวัฒน์ ถือหุ้น 431,520,000 หุ้น คิดเป็น 95.89% หลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 71.92%
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 25% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย