“ทวิช” ลั่นขอแค่ 6 เดือนเคลียร์ปม IFEC พร้อมปลด SP ต.ค.นี้
“ทวิช” ขอเวลา 6 เดือนเคลียร์ปมฉาว IFEC หวังกอบกู้กิจการ ลั่นปลดเครื่องหมาย SP ต.ค.นี้ ย้ำประชุมผู้ถือหุ้น 2 พ.ค.นี้ จะต้องเป็นไปตามกฏ
นายทวิช เตชะนาวากุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC แถลงแผนฟื้นฟูเรียกความเชื่อมั่นก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 2 พ.ค.2560 ว่า จะใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาเบ็ดเสร็จเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้า โดยมีแผนการดังนี้
1.การยุติความขัดแย้งทั้งปวงที่มีระหว่างนายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ อดีตกรรมการ IFEC กับนายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒน์ ประธานกรรมการ IFEC รวมทั้งกรณีของนายแพทย์วิชัยกับกลุ่มดาราเทวี
2.ขอโอกาสในการบริหารงาน 6 เดือน ในเรื่องต่างๆ คือการตั้งที่ปรึกษาทางการเงินเป็นสากลเป็นที่ยอมรับต่อการจัดหาเงินกู้ระยะยาว ดอกเบี้ยต่ำ การชำระหนี้บางส่วน การขายทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือการขายโรงแรมดาราเทวี หากได้มูลค่า 5,000 ล้านบาท รวมทั้งการขายโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ไม่สร้างรายได้หรือขาดทุน การขายที่ดินบางส่วนเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ รวมถึงการต่ยอดธุรกิจโรงแรมดาราเทวี เพื่อให้เป็นศูนย์สุขภาพ
3.การหารายได้เพื่อต่อยอดให้ IFEC เพื่อเพียงพอต่กการชำระหนี้และสร้างสภาพคล่องในการดำเนินงาน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการค้างชำระ
4.การเร่งปิดงบการเงินปี 2559 และไตรมาส 1 ปี 2560 ให้เสร็จภายในเดือนก.ย.-ต.ค.นี้ เพื่อให้หุ้นปลดเครื่องหมาย SP กลับมาซื้อขายได้ภายในเดือนต.ค.นี้
“มั่นใจว่าหากตนได้เข้าไปฟื้นฟูและได้รับความเห็นชอบจากทุกส่วนก็มั่นใจว่าผลประกอบการปี 2561 จะมีกำไรจากการดำเนินงานแน่นอน ส่วนการประชุมคระกรรมการ (บอร์ด) ในวันที่ 27 เม.ย.2560 เวลา 15.00 น. ไม่แน่ใจว่าจะประชุมได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากนายแพทย์วิชัย” นายทวิช กล่าว
นายทวิช กล่าวว่า การประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 2 พ.ค.นี้ จะต้องเป็นไปตามข้อบังคับของบริษัทและถูกกฎแกณฑ์ โดยเฉพาะการลงคะแนนเสียงจะต้องเป็นไปตามข้อบังคับของบริษัท โดยวิธีการโหวต ปกติ 1 หุ้นต่อ 1 เสียง โดยไม่ใช้วิธีการสะสมเหมือนครั้งที่ผ่านมา
สำหรับกรรมการในส่วนของนายทวิช 3 คน ที่หมาดวาระและจะเสนอชื่อให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นแต่งตั้งเข้ามาใหม่ จำนวน 3 คน ประกอบด้วย พลตำรวจเอกสุนทร ซ้ายขวัญ นายปริญญา วิญญรัตน์และนายหาญ เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเข้ามาแทนนายสมชาย สกุลสุรรัตน์ ซึ่งทั้ง 3 คนเป็นที่ยอมรับและมีผลงานในการบริหารงาน