แถลงการณ์ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเฟดประจำเดือนพ.ค.

แถลงการณ์ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐเดือนพ.ค.


ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) ว่า ข้อมูลที่ได้รับนับตั้งแต่ที่คณะกรรมการ FOMC ประชุมกันในเดือนมี.ค.บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง แม้การขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง ส่วนการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง และอัตราว่างงานปรับตัวลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และถึงแม้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวเพียงปานกลาง แต่เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว การขยายตัวของการอุปโภคบริโภคยังคงแข็งแกร่ง และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรมีความแข็งแกร่งเช่นกัน

ส่วนเงินเฟ้อในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมานั้น เคลื่อนตัวเข้าใกล้เป้าหมายระยะยาวของคณะกรรมการ FOMC ซึ่งกำหนดไว้ที่ระดับ 2% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ไม่นับรวมราคาพลังงานและอาหารนั้น ปรับตัวลงในเดือนมี.ค. และยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 2% โดยข้อมูลที่ได้จากการสำรวจการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวบ่งชี้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย

โดยคณะกรรมการ FOMC มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการจ้างงานให้เติบโตอย่างเต็มที่และหนุนราคาให้มีเสถียรภาพ ทั้งนี้คณะกรรมการ FOMC มองว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสแรกมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และคณะกรรมการยังคงคาดการณ์ว่า ด้วยการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป จะทำให้เศรษฐกิจสามารถขยายตัวในระดับปานกลาง และจะช่วยให้ตลาดแรงงานแข็งแกร่งขึ้น ส่วนเงินเฟ้อนั้น คาดว่าจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2% ในระยะกลาง ขณะที่ความเสี่ยงในระยะใกล้ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ อยู่ในระดับค่อนข้างสมดุล ทั้งนี้ คณะกรรมการ FOMC ยังคงจับตาสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด และจะจับตาความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลกต่อไป

เมื่อพิจารณาถึงภาวะตลาดแรงงานและเงินเฟ้อแล้ว คณะกรรมการได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) ที่ระดับ 0.75-1.00% ขณะที่จุดยืนด้านนโยบายการเงินนั้น ยังคงอยู่ในลักษณะผ่อนคลาย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการปรับตัวดีขึ้นต่อไปของภาวะตลาดแรงงานและการที่เงินเฟ้อจะปรับตัวสู่ระดับ 2% อีกครั้ง

สำหรับการตัดสินใจเกี่ยวกับช่วงเวลาและขนาดในการปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในอนาคตนั้น ทางคณะกรรมการจะประเมินภาวะเศรษฐกิจทั้งในแง่ของความเป็นจริงและการคาดการณ์ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับเป้าหมายของการจ้างงานสูงสุดและเงินเฟ้อที่ 2% การประเมินนี้จะพิจารณาข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงมาตรวัดภาวะตลาดแรงงาน ปัจจัยชี้วัดเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและคาดการณ์เงินเฟ้อ และการพิจารณาถึงความคืบหน้าทางการเงินและสถานการณ์ในต่างประเทศ

ทั้งนี้คณะกรรมการจะจับตาดูอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับความคืบหน้าทั้งในแง่ความเป็นจริงและการคาดการณ์สู่เป้าหมายเงินเฟ้อ คณะกรรมการคาดว่าภาวะทางเศรษฐกิจจะปรับตัวในแนวทางที่จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นมีแนวโน้มที่จะยังคงต่ำกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้ในระยะยาวต่อไปสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ทิศทางที่แท้จริงของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจ ตามข้อมูลที่กำลังจะมีการเปิดเผยต่อไป

โดยคณะกรรมการยังคงดำเนินนโยบายที่มีอยู่ในปัจจุบันต่อไปในการนำเงินต้นที่ได้รับจากการถือครองตราสารหนี้ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ไปลงทุนใหม่ใน MBS ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน และเข้าซื้อพันธบัตรชุดใหม่เมื่อพันธบัตรเดิมครบกำหนดไถ่ถอนในการประมูล โดยคณะกรรมการคาดว่าจะดำเนินการดังกล่าวจนกว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะอยู่ในระดับปกติ นโยบายนี้น่าจะช่วยให้ยังคงมีภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลาย โดยที่คณะกรรมการยังคงถือครองหลักทรัพย์ระยะยาวขึ้นเป็นจำนวนมาก

ด้านกรรมการเฟดผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของ FOMC ได้แก่ เจเน็ต แอล. เยลเลน ประธานเฟด, วิลเลียม ซี. ดัดลีย์ รองประธานเฟด, ลาเอล เบรนาร์ด, ชาร์ลส์ อีแวนส์, สแตนลีย์ ฟิสเชอร์, แพทริค ฮาร์เกอร์, โรเบิร์ต เอส. แคปแลน, นีล คาชคารี และเจอโรม เอช. เพาเวล

Back to top button