AMC ฉลุย! ผถห.ไฟเขียวปันผล 0.20 บ. ปักธงรายได้ปีนี้โต 15%
AMC ผ่านฉลุย! ผถห.ไฟเขียวปันผล 0.20 บ./หุ้น กำหนดจ่าย 25 พ.ค.60 พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15% ตามการบริโภคเหล็กที่เพิ่มขึ้น - เล็งศึกษาการออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาร์จิ้นสูง เพื่อรองรับปริมาณก่อสร้างที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น - จ่อนำ “ไพร์ม สตีล มิลล์” เข้าตลาดภายใน 2-3 ปีข้างหน้า
นายชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซีย เมทัล จำกัด (มหาชน) หรือ AMC เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 อนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท รวมเป็นเงิน 96.02 ล้านบาท ภายหลังในงวดปี 2559 บริษัทมีกำไรสุทธิ 354.26 ล้านบาท ซึ่งจะจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2560
อีกทั้ง บริษัทปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโตแบบ Conservative ที่ 10-15% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 5,125.99 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทมีแผนศึกษาการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นค่อนข้างสูง เพื่อรองรับปริมาณงานก่อสร้างที่กำลังปรับตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทคาดการณ์การบริโภคเหล็กของไทยในปี 2560 ประมาณ 17.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้น1.1-2.8% จากปี 2559 ที่มีปริมาณการผลิตเหล็กและเหล็กกล้ามีประมาณ 7,728,338 เมตริกตัน ไม่รวมผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นเคลือบและท่อเหล็ก เพิ่มขึ้น 18.98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ดังนั้น คาดว่าปีนี้อุตสาหกรรมเหล็กทรงแบน จะมีการบริโภคที่เพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องปรับอากาศ สำหรับเหล็กทรงยาวที่ใช้ในอุตสาหกรรม ก่อสร้างคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น โดยในส่วนของโครงการก่อสร้างภาครัฐที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ พบว่า ในปี 2560 กระทรวงคมนาคมมีแผนการด้านขนส่ง โดยขยายการก่อสร้างโครงสร้างพื้นที่ 36 โครงการ
ซึ่งส่งผลให้ เหล็กทรงยาวขยายตัวขึ้น และคาดว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมจะขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปี 2558 จากการทยอยฟื้นตัวอย่างช้าๆ ของเศรษฐกิจโลกและการค้าโลก รายจ่ายการลงทุนภาครัฐที่มีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและการดำเนินงานภายใต้แผนงานพัฒนาระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก
“เรามองว่าความต้องการใช้เหล็กในไทยแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากกิจกรรมการก่อสร้างเป็นหลักโดยเฉพาะก่อสร้างโครงการภาครัฐ นอกจากนี้ ยังมีความต้องการใช้เหล็กเกรดพิเศษในกลุ่มยานยนต์มากขึ้นซึ่งเป็นผลจากการขยายโรงงานการผลิต บวกตลาดส่งออก ผู้ผลิตเหล็กไทยควรหันไปผลิตเหล็กเกรดพิเศษและเหล็กคุณภาพสูงให้มากขึ้น โดยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เพื่อขยายฐานลูกค้าระดับกลาง-บน อุตสาหกรรมเหล็กยัง ถือเป็นต้นน้ำที่สำคัญ กับอุตสาหกรรมปลายน้ำที่หลากหลาย เช่น ก่อสร้าง และยานยนต์” นายชูศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ยังคงเดินหน้าตามแผนที่จะนำ บริษัท ไพร์ม สตีล มิลล์ จำกัด (เดิมชื่อบริษัท เต๋อหลง (ไทยแลนด์) จำกัด) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่ง “เต๋อหลง” มีธุรกิจหลัก คือ ผลิตและจำหน่ายเหล็กม้วนหน้าแคบ (HOT STRIP STEEL) โดยคาดปี 2560 บริษัทจะสามารถทำกำไร เนื่องจากปัจจุบันมีลูกค้าสั่งออเดอร์ เพิ่มมากขึ้น และสามารถผลิตสินค้าตอบสนองลูกค้าได้ตามความต้องการ