TICON ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20% ตั้งงบลงทุน1.80พันลบ.สร้างคลังสินค้า
TICON ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20 มองผลประกอบการ Q2/60 สูงกว่า Q1 หลังลูกค้าย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนเข้ามาในปท.มากขึ้น พร้อมตั้งงบลงทุน 1.80 พันลบ. ใช้สร้างคลังสินค้า
นายวีรพันธ์ พูลเกษ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโต 20% จากปี 59 ที่มีรายได้ 2,479.17 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตตามอัตราการเช่าคลังสินค้า-โรงาน ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้ 70% ของรายได้รวม และการปรับค่าเช่าเพิ่มเฉลี่ย 1% จากลูกค้าที่ต่อสัญญาเช่า
รวมถึงปีนี้บริษัทจะมีรายได้จากการขายโรงงานให้กับลูกค้าในช่วงไตรมาส 1-2/60 และปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาขายที่ดินขนาดเล็ก หลังจากที่ดินมีราคาแพงจนไม่คุ้มในการสร้างคลังสินค้าให้เช่าแล้ว นอกจากนี้ยังมีรายได้จากค่าธรรมเนียมบริการกองทุนอีกด้วย
โดยบริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 1,800 ล้านบาทเพื่อใช้ในการก่อสร้างคลังสินค้าขนาด 1 แสนตารางเมตร มูลค่า 1,200-1,300 ล้านบาท และ การลงทุนของ บริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด (TPARK) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ร่วมทุนกับ พรอสเพค เพื่อพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าที่บางพลี รวมทั้งในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะก่อสร้างโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าที่อินโดนีเซียเป็นเฟสที่ 3 ขนาด 3 หมื่นตารางเมตร ใช้เงินลงทุนราว 360 ล้านบาท หลังขจาก 2 เฟสแรกมีการเช่าเต็มทั้งหมดแล้ว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/60 จะสูงกว่าช่วงไตรมาส 1/60 ที่มีรายได้ 604.13 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 94.87 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันมีลูกค้าย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนเข้ามาในไทยมากขึ้น เนื่องจากค่าแรงและต้นทุนการผลิตในจีนสูงขึ้น ส่งผลให้จำนวนลูกค้าใหม่เช่าพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการญี่ปุ่น
ขณะที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำแผนธุรกิจในช่วง 3-5 ปี ข้างหน้า โดยเตรียมเสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาในช่วงไตรมาส 3/60 หลังจากเฟรเชอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้งแผนการดำเนินงานในประเทศ และต่างประเทศ
ส่วนการพัฒนาที่ดินในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ( EEC) ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินเปล่าอยู่ 3,800 ไร่ แบ่งเป็นใช้รองรับการพัฒนาโรงงาน 1 พันไร่ และ คลังสินค้า 2.8 พันไร่ ซึ่งเพียงพอต่อการพัฒนาในระยะเวลาอีก 2-3 ปี และ หากพื้นที่ EEC มีความต้องการใช้โรงงานและคลังสินค้ามากขึ้น บริษัทก็มีความพร้อมที่จะพัฒนาทันที