WHA ส่งซิกกำไร Q2/60 โตแจ่ม! รับอานิสงส์ภาครัฐเร่งลงทุน EEC

WHA ส่งซิกกำไรไตรมาส 2 โตแจ่ม! รับอานิงส์ภาครัฐเร่งลงทุนโครงการ EEC - มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้าแตะ 1.3 หมื่นลบ. พร้อมปรับเป้ายอดขายที่ดินเป็น 1,400 ไร่ จากเดิม 1,000 ไร่


นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเป้าหมายยอดขายที่ดินปีนี้ขึ้นเป็น 1,400 ไร่ จากเดิม 1,000 ไร่ และปรับเป้ายอดโอนที่ดินปีนี้เป็น 1,200 ไร่ จากเดิมที่ 1,000 ไร่

โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) แล้ว 867 ไร่ ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมามีผู้ประกอบการสนใจเข้ามาสอบถามและเจรจาซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง กว่า 20 รายในกลุ่มยานยนต์ ปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ และ ค้าปลีก มาจากทั้งญี่ปุ่น สหภาพยุโรป รวมไปถึงจีน

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/60 บริษัทคาดว่าทั้งรายได้และกำไรสุทธิจะสูงกว่าไตรมาส 1/60 ที่มีรายได้ 1,365.13 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 80.78 ล้านบาท โดยบริษัทเตรียมโอนที่ดินมากกว่า 500 ไร่ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/60 ที่มียอดโอนที่ดินเพียง 15 ไร่เท่านั้น เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการที่ภาครัฐเร่งกระตุ้นการลงทุนในโครงการเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ทำให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มยานยนต์ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มเคมีภัณฑ์

ขณะเดียวกัน ในไตรมาสนี้ยังจะรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน หลังจากเสร็จสิ้นการปิดซ่อมบำรุงในไตรมาส 1/60 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้บริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 13,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ยังมาจากการขายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม 40% และ โลจิสติกส์ 35% ส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจไฟฟ้าภายใต้ บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 70% ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีการเติบโตไม่น้อยกว่า 40% โดยจะมีโรงไฟฟ้าอีก 4 แห่งที่เตรียมขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่เดือน พ.ค.-พ.ย. นี้ กำลังการผลิตรวม 128.8 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมรวมกอง WHAPF กับ WHART โดยคาดว่ากระบวนการต่างๆ จะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. จะทำให้ WHART มีขนาดเพิ่มเป็น 23,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นกอง REIT ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จากนั้นในช่วงปลายปีบริษัทมีแผนขายสินทรัพย์เข้าทั้งกอง WHART และ HREIT เพิ่มอีก 140,000 ตารางเมตร มูลค่าราว 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ในช่วงไตรมาส 4/60 มีผลประกอบการที่ดีที่สุดในปีนี้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทเตรียมเดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ทั้งในญี่ปุ่น สหรัฐ สิงคโปร์ ฮ่องกง และสหภาพยุโรป โดยคาดหวังว่าจะมีสัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 25% ตามเป้าหมาย จากปัจจุบันอยู่ที่ 20% แล้ว

Back to top button