สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 พ.ค.60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ยื่นเสนองบประมาณประจำปี 2018 วงเงิน 4.1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยคาดว่างบประมาณดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัว 3% ต่อปี อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดได้ถูกสกัดในระหว่างวัน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐ และจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,937.91 จุด เพิ่มขึ้น 43.08 จุด หรือ +0.21% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,398.42 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,138.71 จุด เพิ่มขึ้น 5.09 จุด หรือ +0.08%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของประเทศยูโรโซน ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนี อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวร่วงลง หลังจากเกิดเหตุก่อการร้ายที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 392.02 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,348.16 จุด เพิ่มขึ้น 25.28 จุด หรือ +0.47% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,659.15 จุด เพิ่มขึ้น 39.69 จุด หรือ +0.31% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,485.29 จุด ลดลง 11.05 จุด หรือ -0.15%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบ เมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) จากปัจจัยความวิตกกังวลของนักลงทุน หลังเกิดเหตุระเบิดที่เมืองแมนเชสเตอร์ในคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 ราย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนลดลง 11.05 จุด หรือ -0.15% ปิดที่ 7,485.29 จุด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กและความแข็งแกร่งของดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ระดับ 1,255.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 5.2 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 17.139 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 90 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 949.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 13.25 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 772.35 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) จากความหวังที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก จะร่วมมือกันขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน ในการประชุมวันที่ 25 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีแผนขายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 51.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 54.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ ซึ่งพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1179 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1236 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2965 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2997 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7483 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7475 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.73 เยน จากระดับ 111.20 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9759 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9733 ฟรังก์สวิส