FORTH คาดรายได้-กำไรปีนี้ทำนิวไฮ จ่อเข้าประมูลงานรัฐ 2-3 พันลบ.
FORTH คาดรายได้-กำไรปีนี้ทำนิวไฮ หลัง Backlog 500 ลบ. รับรู้รายได้เกือบทั้งหมด-รับส่วนแบ่งกำไรจาก FSMART เพิ่ม จ่อเข้าประมูลงานรัฐ 2-3 พันลบ. หวังได้งาน 50%
นายชัชวิน พิพัฒน์โชติธรรม ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH เปิดเผยว่า คาดรายได้และกำไรสุทธิปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ หรือเติบโตราว 15-20% มาที่ 5.7-5.8 พันล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 5.43 พันล้านบาท เป็นไปตามงานภาครัฐที่เริ่มเปิดประมูลงานมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/60 เป็นต้นไป
ทั้งนี้บริษัทก็เตรียมเข้าประมูลงานโทรคมนาคมภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ งานวางโครงข่ายให้กับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน), การไฟฟ้านครหลวง, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และงานกำไลติดตามนักโทษของกรมควบคุมความประพฤติ เป็นต้น มูลค่ารวมกว่า 2-3 พันล้านบาท คาดหวังจะชนะประมูลราว 50%
โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ราว 500 ล้านบาท คาดจะรับรู้รายได้ในปีนี้ได้เกือบทั้งหมด ซึ่งงานใหญ่ๆจะเป็นงานของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการปรับปรุงและเพิ่มเติมกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) มูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท และงานภาคเอกชน ของ AIS ,DTAC มูลค่า 50-60 ล้านบาท
อีกทั้งยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ที่ FORTH ถือหุ้นในสัดส่วน 46% มีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องตามจำนวนตู้บุญเติมที่ขยายได้เร็วกว่าแผน และมูลค่าการเติมเงินผ่านตู้สูงขึ้น ทำให้บริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรเข้ามามากขึ้น
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในประเทศอินโดนีเซียในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อจำหน่ายตู้เติมเงิน คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 3/60 โดยตั้งเป้าจำหน่ายตู้เติมเงินในปีนี้ไว้ราว 20,000 ตู้ หรือมียอดขายที่ 600-700 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างศึกษาการขยายตู้เติมเงินไปยังประเทศเมียนมา โดยเบื้องต้นก็มีการนำตู้เติมเงินเข้าไปในเมียนมาบ้างแล้ว เพื่อทดลองตลาด
“เราคาดว่าครึ่งปีหลังนี้ งานก็น่าจะเข้ามาเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อผลประกอบการที่น่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่าปีก่อน โดยปีนี้ธุรกิจอีเอ็มเอสเราตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-7% ส่วนตู้เติมเงินบุญเติมตั้งเป้ารายได้โต 25-30% ขณะที่เราก็เตรียมเข้าประมูลงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และวางงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 600-700 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะใช้ในการขยายตู้เติมเงินบุญเติม”นายชัชวิน กล่าว