SLC ซัด “สุภิญญา – ธวัชชัย” วางตัวไม่เป็นกลาง
SLC ร้อง ประธาน กสทช. ขอความเป็นธรรมสืบเนื่องจาก 2 กรรมการ "สุภิญญา - ธวัชชัย" ให้ข่าวไม่เห็นด้วยกับมติวางตัวไม่เป็นกลาง รวมถึงชี้นำเนชั่นฟ้องศาลปกครอง ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย จึงขอสงวนสิทธิ์ดำเนินการตามกฏหมายทั้งอาญา - แพ่ง จนถึงที่สุด
บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ระบุว่า บริษัทได้ส่งจดหมายถึง ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ในวันนี้ 21 เมษายน 2558 เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากกรณีที่ กรรมการ กสทช. 2 ท่าน คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ได้ออกมาให้ข่าวทางสื่อมวลชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผู้รับข่าวสารอาจเข้าใจได้ว่า SLC ได้มีการกระทำอันเป็นการขัดต่อประกาศ กสทช. ในหลายประเด็น
โดยเฉพาะเรื่องหลักเกณฑ์ และวิธีการประมูลโทรทัศน์ดิจิตอล และเมื่อที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. รับรองมติในวันที่ 30 มีนาคม 2558 เห็นว่ากรณี บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) หรือ SLC ซื้อหุ้น บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG ไม่ปรากฎว่ากระทำการขัดต่อเงื่อนไขการมีผลประโยชน์ร่วมกัน จึงไม่ขัดต่อประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กรรมการกสทช.ทั้ง 2 ท่าน ก็ยังคงให้ข่าวในลักษณะที่ไม่เห็นด้วยต่อมติดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องโดยนายธวัชชัย ได้แนะนำผู้ที่ยังเห็นว่าผลการตัดสิน กสท.ไม่ถูกต้องก็สามารถไปฟ้องต่อศาลได้ โดยตนเองพร้อมที่จะสนับสนุนข้อมูล รวมถึงบันทึกการประชุม โดยจดหมายมีเนื้อความดังต่อไปนี้
ตามที่บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) “บริษัทฯ” ได้เคยมีหนังสือดังอ้างถึงข้างต้น ร้องขอความเป็นธรรมมายังท่านคณะกรรมการกสทช และขอความกรุณาท่านคณะกรรมการกสทชได้โปรดใช้ดุลพินิจและการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบและเป็นธรรมตามกฎหมายต่อบริษัทฯอันเนื่องมาจาก ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงจากการนำเสนอข่าวของสื่อในเครือเนชั่น และคำให้สัมภาษณ์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งมีลักษณะไปในทิศทางชี้นำหรือสร้างกระแสไปในทางที่อาจทำให้เกิดความสับสนหรือลังเลในการพิจารณาอย่างรอบคอบและเป็นธรรมของคณะกรรมการกสทช. ซึ่งทำให้ทางบริษัทฯ มีความห่วงใยในความเป็นอิสระและการใช้ดุลพินิจของการทำหน้าที่ของคณะกรรมการกสทช. ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น
ด้วยปรากฎข้อเท็จจริงว่าที่ผ่านมา กรรมการกสทช. 2 ท่าน คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ได้ออกมาให้ข่าวทางสื่อมวลชนมาอย่างต่อเนื่องก่อนหน้าที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท.จะมีการประชุมชี้ขาดในวันที่ 23 มีนาคม 2558 ในลักษณะที่ผู้รับข่าวสารอาจเข้าใจได้ว่าบริษัท ได้มีการกระทำอันเป็นการขัดต่อประกาศ กสทช.ในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการประมูลโทรทัศน์ดิจิตอล และแม้ว่าที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. จะมีมติในวันที่ 23 มีนาคม 2558 และรับรองมติในวันที่ 30 มีนาคม 2558
เห็นว่ากรณีบริษัทโซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) หรือ SLC ซื้อหุ้น บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG ไม่ปรากฎว่ากระทำการขัดต่อเงื่อนไขการมีผลประโยชน์ร่วมกัน จึงไม่ขัดต่อประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้ใช้คลื่นความถี่ ในกิจการกระจายเสียง หรือกิจการโทรทัศน์ เพื่อประกอบกิจการทางธุรกิจ พ.ศ. 2556 กรรมการกสทช.ทั้ง 2 ท่าน ก็ยังคงให้ข่าวในลักษณะที่ไม่เห็นด้วยต่อมติดังกล่าว มาอย่างต่อเนื่องโดยนายธวัชชัย ได้แนะนำผู้ที่ยังเห็นว่าผลการตัดสิน กสท.ไม่ถูกต้องก็สามารถไปฟ้องต่อศาลได้ โดยตนเองพร้อมที่จะสนับสนุนข้อมูล รวมถึงบันทึกการประชุม
ทั้งนี้ การออกมาให้ข่าวของคณะกรรมการกสทช.ทั้ง 2 ท่านอย่างต่อเนื่องเป็นในลักษณะที่มีอคติต่อบริษัทฯ ทำให้บริษัทฯได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง และไม่ให้ความเป็นธรรมต่อบริษัทฯเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“NMG”) ซึ่งเป็นคู่กรณีของบริษัทฯ โดยตรง โดยเป็นการให้ข่าวในลักษณะที่สอดคล้อง และสอดรับกับสื่อในเครือของ NMG มาโดยตลอด
ดังจะเห็นได้จากล่าสุด เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2558 ได้มีกลุ่มตัวแทนผู้ถือหุ้นเนชั่นในกลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์และพนักงานเนชั่น เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.อ.ธเรศ ปุรศรี ประธานกสทช.ผ่านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ เรียกร้องให้ กสทช.ทบทวนมติที่ประชุม กสท. เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2558 และการรับรองมติเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558 ซึ่งในเนื้อความของผู้เรียกร้อง เป็นประเด็นที่เกี่ยวกับการนับคะแนนของคณะกรรมการ กสท. ซึ่งเป็นประเด็นเดียวกันกับความเห็นของกรรมการกสทช.ทั้ง 2 ท่าน ที่ได้ให้ไว้ในกรณีที่ไม่รับรองมติคณะกรรมการกสท.เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558
ทั้งนี้ บริษัทจึงใคร่ขอเรียกร้องความเป็นธรรมมายังท่านคณะกรรมการกสทช. และขอความกรุณาท่านคณะกรรมการกสทช. ได้โปรดใช้ดุลพินิจและการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบและเป็นธรรมตามกฎหมายต่อบริษัทฯโดยบริษัทฯขอเรียนว่า บริษัทฯมีความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ ดุลพินิจและการพิจารณาอย่างเป็นธรรมของคณะกรรมการกสทช.
อนึ่ง บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินการใด ๆ ตามกฎหมายหากปรากฏว่ามีการกระทำของหน่วยงานหรือบุคคลใดที่ขัดต่อกฎหมายและมีผลเสียหายกับบริษัทฯ บริษัทฯอาจมีความจำเป็นต้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญารวมทั้งตามกฎหมายปกครองหรือกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือหน่วยงานใดที่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมกับบริษัทฯจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป