BM เล็งเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้หลัง จ่อสรุปร่วมทุนญี่ปุ่นกลางเดือน
BM เล็งปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้หลังแนวโน้ม Q2/60 ดีกว่าคาด เตรียมสรุปร่วมทุนพันธมิตรญี่ปุ่นกลางเดือนนี้
นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า บริษัทมีโอกาสปรับเพิ่มเป้ารายได้ในปีนี้มากกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 850.86 ล้านบาท หลังจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 ออกมาแล้ว
สำหรับโอกาสในการปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ที่เติบโตมากขึ้นมาจากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่มีแนวโน้มเติบโตมากกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้ โดยเป็นการเติบโตมาจากยอดขายในทุกผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างและอุตสาหกรรมการเกษตรที่มีความต้องการใช้สินค้าของบริษัทเพิ่มมากขึ้น เป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานของบริษัท
อีกทั้ง ปัจจุบัน บริษัทยังมีมูลค่างานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 400-500 ล้านบาท จากช่วงต้นปีอยู่ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ทั้งหมดเข้ามาภายในปีนี้
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตของรายได้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 1/60 ที่มีรายได้ 201.69 ล้านบาท ซึ่งมาจากลูกค้าในกลุ่มงานก่อสร้างและอุตสาหกรรมการเกษตรที่ยังมีคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือน เม.ย-พ.ค.60 เห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นของยอดขายค่อนข้างมาก อีกทั้งในแง่ของควบคุมต้นทุนการผลิตและสัญญาณการปรับตัวลดลงของราคาวัตถุดิบเป็นผลบวกต่อกำไรของริษัท ซึ่งเป็นสิ่งบริษัทให้ความสำคัญอย่างมาก
นายธีรวัต ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าของแผนการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่นว่า คาดว่าจะได้ข้อสรุปรายละเอียดต่างๆ ภายในวันที่ 13 มิ.ย. 60 ซึ่งจะจัดการประชุมร่วมกับพันธมิตร หลังจากที่ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นได้อนุมัติให้บริษัทจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งเป็นการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) เพื่อจัดสรรให้กับบุคคลในวงจำกัดในสัดส่วน 10-20% เตรียมไว้แล้ว
ทั้งนี้ แผนงานในเบื้องต้นบริษัทจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับพันธมิตรเพื่อเข้าไปลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่กรุงย่างกุ้งของเมียนมา พร้อมทั้งลงทุนเครื่องจักรเพื่อผลิตท่อร้อยสายไฟ ตู้ไฟฟ้า และชิ้นส่วนโลหะ เพื่อรองรับความต้องการภายในเมียนมร์ โดยพันธมิตรจากญี่ปุ่นจะเข้ามามีส่วนร่วมในด้านการตลาด ขณะเดียวกันมีแผนจะขยายการผลิตไปยังเมืองมัณฑะเลย์เพิ่มเติมอีกในอนาคต
ด้านแผนการผลิตรถสามล้อไฟฟ้าคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสิ้นปี 60 โดยบริษัทจะเจรจากับกลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการรถสามล้อไฟฟ้าเพื่อหาแนวทางในการผลิตและให้บริการร่วมกัน ซึ่งขณะนี้บริษัทได้ผลิตและเริ่มทดลองใช้แล้ว แนวทางหารือร่วมกันนั้นจะได้ข้อยุติว่าจะเป็นการให้บริษัทผลิต และใช้แบรนด์ยี่ห้อของบริษัทอื่น ๆ หรือจะเป็นการผลิตภายใต้แบรนด์สินค้าของบริษัทและออกจำหน่าย
ขณะที่การขยายโรงงานผลิตแห่งที่ 2 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการผลิตได้ในปี 60 ซึ่งจะช่วยผลักดันกำลังการผลิตของบริษัทให้เพิ่มขึ้นได้อีกราว 30% ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถเพิ่มศักยภาพในการรับงานได้สูงขึ้น ปัจจุบันมีความต้องการสินค้าเหล็กแปรรูปที่เพิ่มมากจากกลุ่มงานระบบไฟฟ้าและผู้รับเหมาโครงการก่อสร้าง