สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 มิ.ย.60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก เมื่อวันศุกร์ (2 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq เดินหน้าทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 2 อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,206.29 จุด เพิ่มขึ้น 62.11 จุด หรือ +0.29% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,439.07 จุด เพิ่มขึ้น 9.01 จุด หรือ +0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,305.80 จุด เพิ่มขึ้น 58.97 จุด หรือ +0.94%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เมื่อวันศุกร์ (2 มิ.ย.) โดยดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากรายงานยอดขายรถยนต์ที่แข็งแกร่งของเยอรมนี โดยข้อมูลดังกล่าวได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 392.55 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,343.41 จุด เพิ่มขึ้น 24.74 จุด หรือ +0.47% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,822.94 จุด เพิ่มขึ้น 158.02 จุด หรือ +1.25% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,547.63 จุด เพิ่มขึ้น 3.86 จุด หรือ +0.05%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้น เมื่อวันศุกร์ (2 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองทองคำ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งในอังกฤษซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 8 มิ.ย.นี้

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,547.63 จุด เพิ่มขึ้น 3.86 จุด หรือ +0.05%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลง เมื่อวันศุกร์ (2 มิ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตัดสินใจนำสหรัฐถอนตัวออกจาก “ความตกลงปารีสว่าด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ” จะส่งผลให้สหรัฐขุดเจาะและผลิตน้ำมันมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 20

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 70 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 47.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 68 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 49.95 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น เมื่อวันศุกร์ (2 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ยังได้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 10.1 ดอลลาร์ หรือ 0.80% ปิดที่ 1,280.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 24.4 เซนต์ หรือ 1.41% ปิดที่ 17.525 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 24.4 ดอลลาร์ หรือ 2.63% ปิดที่ 953.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 10.95 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 834.05 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (2 มิ.ย.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนเม.ย.

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 110.48 เยน จากระดับ 111.43 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9640 ฟรังก์ จากระดับ 0.9715 ฟรังก์

ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1277 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1212 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2881 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2883 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7438 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7379 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button