สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 มิ.ย.60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกัน เป็นวันที่สองเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) จะเข้าให้การต่อวุฒิสภาในประเด็นรัสเซียในวันที่ 8 มิ.ย. และก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษซึ่งจะมีขึ้นในวันเดียวกัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 8 มิ.ย.นี้เช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,136.23 จุด ลดลง 47.81 จุด หรือ -0.23% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,429.33 จุด ลดลง 6.77 จุด หรือ -0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,275.06 จุด ลดลง 20.63 จุด หรือ -0.33%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่การเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีขึ้นในวันที่ 8 มิ.ย.นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.7% ปิดที่ 389.40 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,690.12 จุด ร่วงลง 132.82 จุด หรือ -1.04% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,269.22 จุด ลดลง 38.67 จุด หรือ -0.73% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,524.95 จุด ลดลง 0.81 จุด หรือ -0.01%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลง เมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษซึ่งจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยโพลล์สำรวจล่าสุดบ่งชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ และพรรคแรงงานมีคะแนนห่างกันไม่มาก ซึ่งอาจทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องขับเคี่ยวกันสูสีและอาจออกผลลัพธ์ได้สองหน้า

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 0.81 จุด หรือ -0.01% ปิดที่ 7,524.95 จุด

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน เมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในต่างประเทศ รวมถึงความขัดแย้งระหว่างกาตาร์และกลุ่มประเทศอาหรับ และความวิตกกังวลก่อนที่นายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) จะเข้าให้การต่อวุฒิสภาในประเด็นรัสเซียในวันที่ 8 มิ.ย. ได้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 14.8 ดอลลาร์ หรือ 1.15% ปิดที่ระดับ 1,297.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. 2559

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 12.9 เซนต์ หรือ 0.73% ปิดที่ 17.71 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 963.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 6.55 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 848.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 รวมทั้งความหวังที่ว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกาตาร์และกลุ่มประเทศอาหรับ จะคลี่คลายไปในทางที่ดี หลังจากที่คูเวตได้แสดงความตั้งใจที่จะเป็นคนกลางในการประสานความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 48.19 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 50.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) ด้วยแรงกดดันจากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ 1.1269 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1252 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลง ที่ระดับ 1.2885 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2908 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7508 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7489 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.56 เยน จากระดับ 110.49 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9628 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9652 ฟรังก์สวิส

Back to top button