ASN คงเป้าเบี้ยรับรวมปีนี้โตกว่า 8% จาก 900 ล้านบาท
ASN คาดแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก คงเป้าเบี้ยรับรวมปีนี้โตกว่า 8% จาก 900 ล้านบาท
นายธวัชชัย ชีวานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASN เปิดเผยว่า บริษัทคงเป้าหมายเบี้ยรับรวมปีนี้จะโตไม่ต่ำกว่า 8% จากปี 59 ที่บริษัทมีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ 900 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตตามตลาดธุรกิจประกันชีวิตปีนี้คาดเติบโต 7-8% และธุรกิจประกันภัยรถยนต์ที่คาดว่าจะเติบโต 1% ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าปีนี้ยังทำได้ตามเป้าหมายแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และภาวะอุตสาหกรรมประกันภัยโดยรวมยังทรงตัว
โดย บริษัทคาดว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/60 จะใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 1/60 แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าครึ่งปีหลังแนวโน้มผลประกอบการจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ประกอบกับมองว่าเศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นได้อีกด้วย
นอกจากนั้น ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาบริษัทฯได้เซ็นสัญญาการขายกับพันธมิตรประกันชีวิตรายใหม่ 1 ราย คือ บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด โดยที่ผ่านมาบริษัทมีพันธมิตรเป็นประกันวินาศภัย 30 ราย และ ประกันชีวิต 2 ราย ซึ่งในปีนี้ยังไม่มีแผนเพิ่มพันธมิตรที่ให้บริการประกันชีวิต
“แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรกผลประกอบการจะไม่ได้เป็นไปตามที่หวังนัก แต่ด้วยการเพิ่มพันธมิตรใหม่ๆเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มที่ดี รวมไปถึงเป็นช่วงไฮซีซั่นในช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่าการเติบโตของเบี้ยรับรวมจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้” นายธวัชชัย กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิในปีนี้ให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 40.76% และ 16.93% ตามลำดับ หลังจากไตรมาส 1/60 อัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลงเหลือ 36.31% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 10.68% โดยจะเพิ่มการขายผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น และลดต้นทุนพนักงานขายผ่านทางโทรศัพท์ (Telesales) นอกจากนี้ บริษัทได้เลื่อนแผนการเพิ่มพนักงานขายผ่านทางโทรศัพท์ให้เป็น 300 คนออกไปเป็นสิ้นปีนี้ จากแผนเดิม คือ กลางปีนี้ โดยปัจจุบันมีพนักงานดังกล่าวแล้ว 200 คน
นายธวัชชัย กล่าวถึงธุรกิจให้บริหารจับคู่ผู้ที่ต้องการให้กู้ยืมเงินและผู้ต้องการกู้ยืมเงิน ทั้งแบบมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ภายใต้บริษัทย่อย คือ บริษัท ได้เงิน ดอทคอม จำกัด ซึ่งลักษณะจะเป็นการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ อัตราดอกเบี้ย 0.69% ซึ่งถือว่าต่ำกว่ารายอื่น โดยบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนา Platform คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงไตรมาส 2/60 น่าจะสามารถให้บริการปล่อยสินเชื่อในปีนี้ราว 300 ล้านบาท