10 หุ้นตัวแม่! Value Stock  เน้น 3 จุดเด่นหนุนหุ้นน่าเก็บ

10 หุ้นตัวแม่! Value Stock  เน้น 3 จุดเด่นหนุนหุ้นน่าเก็บ นำโดย SPCG,QH,BANPU,LH,TTW,IRPC,INTUCH, GLOW,KTB และ VNG  


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์”ทำการสำรวจหุ้นมีคุณค่าหรือ Value Stock มานำเสนอ เนื่องจากเห็นว่าหุ้นกลุ่มนี้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว และมีความผันผวนต่ำนั่นเองโดยคุณสมบัติสำคัญของการคัดเลือกหุ้นดังกล่าวมี 3 ข้อคือ อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity Ratio หรือ ROE) มากกว่า 10%  และราคาหุ้นมี Upside มากกว่า 10% รวมทั้งมีอัตราเงินปันผลตอบแทน หรือ dividend yield  มากกว่า 4% สำหรับหุ้นที่มีคุณสมบัติดังกล่าวผ่านการคัดเลือก 10 ตัวคือ SPCG, QH, BANPU, LH, TTW, IRPC, INTUCH, GLOW, KTB และ VNG ดังตารางประกอบจาก บล.โนมูระ พัฒนสิน ดังนี้

 

โดยอันดับ 1 บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG ประกอบธุรกิจด้านการลงทุน โดยการถือหุ้นบริษัทในเครือและบริษัทร่วมเพื่อดำเนินธุรกิจ 4 ด้าน ดังนี้(1) ธุรกิจลงทุนและพัฒนาโซลาร์ฟาร์ม (2) ธุรกิจผลิต จำหน่าย และให้บริการติดตั้งแผ่นหลังคาเหล็กเคลือบรีดลอน (Roll Forming Metal Sheet) รวมถึงวัสดุที่เกี่ยวกับหลังคาและฝาผนังอื่นๆ(3) ธุรกิจจำหน่ายและรับติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof)(4)ธุรกิจให้สินเชื่อเช่าซื้อแก่บริษัท และโรงงานต่างๆ ในการลงทุนทำระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof)

โดยหุ้นให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity Ratio หรือ ROE อยู่ที่ 24.99% และราคาหุ้นมี Upside อยู่ที่ 15.81% อีกทั้งให้อัตราเงินปันผลตอบแทน หรือ dividend yield  สูงถึง 5.94%

 

อันดับ 2 บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและให้เช่า บ้านพร้อมที่ดิน หน่วยในอาคารชุดพักอาศัย อาคารที่พักอาศัยให้เช่า (ธุรกิจเซอร์วิส อะพาร์ตเมนต์ โรงแรม) อาคารสำนักงาน รวมทั้งรับจ้างบริหาร และร่วมลงทุนในธุรกิจอื่นๆ

โดยให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity Ratio หรือ ROE อยู่ที่ 14.19% และราคาหุ้นมี Upside อยู่ที่ 15.64% อีกทั้งให้อัตราเงินปันผลตอบแทน หรือ dividend yield  สูงถึง 6.05%

 

อันดับ 3 บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU กลุ่มบริษัทดำเนินธุรกิจหลัก คือ 1) ธุรกิจถ่านหิน ที่ผลิตจากเหมืองที่บริษัทลงทุนในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาชนจีน และออสเตรเลีย 2) ธุรกิจไฟฟ้า ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำจากโรงไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทในประเทศไทย (มาบตาพุด ระยอง) และที่ลงทุนในสาธารณรัฐประชาชนจีน

โดยให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity Ratio หรือ ROE อยู่ที่ 9.26% และราคาหุ้นมี Upside อยู่ที่ 27.47% อีกทั้งให้อัตราเงินปันผลตอบแทน หรือ dividend yield  สูงถึง 4.86%

 

อันดับ 4 บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย โดยขายบ้านจัดสรรพร้อมที่ดิน ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม โครงการส่วนใหญ่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และตามจังหวัดใหญ่ ๆ เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา ขอนแก่น ภูเก็ต เป็นต้น

โดยให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity Ratio หรือ ROE อยู่ที่ 17.94% และราคาหุ้นมี Upside อยู่ที่ 12.21% อีกทั้งให้อัตราเงินปันผลตอบแทน หรือ dividend yield  สูงถึง 6.56%

 

อันดับ 5 บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW ผลิตและจำหน่ายน้ำประปาให้กับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) โดยบริษัทดำเนินการครอบคลุมพื้นที่ อ.นครชัยศรี อ.สามพราน อ.พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และ อ.เมืองสมุทรสาคร อ.กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร สำหรับบริษัทย่อยดำเนินการในเขต จ. ปทุมธานี

โดยให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity Ratio หรือ ROE อยู่ที่ 22.67% และราคาหุ้นมี Upside อยู่ที่ 10.24% อีกทั้งให้อัตราเงินปันผลตอบแทน หรือ dividend yield  สูงถึง 6.02%

 

อันดับ 6 บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC กลุ่มบริษัทดำเนินธุรกิจ 1) ธุรกิจปิโตรเลียม  2) ธุรกิจปิโตรเคมี 3) ธุรกิจท่าเรือและถังเก็บผลิตภัณฑ์ ให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อขนถ่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ 4) ธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สิน เพื่อบริหารจัดการทรัพย์สินในส่วนที่เป็นที่ดินเปล่า

โดยให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity Ratio หรือ ROE อยู่ที่ 13.29% และราคาหุ้นมี Upside อยู่ที่ 16.95% อีกทั้งให้อัตราเงินปันผลตอบแทน หรือ dividend yield  สูงถึง 4.34%

 

อันดับ 7 บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ประกอบธุรกิจด้านการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ และเทคโนโลยี โดยการถือหุ้นและเข้าไปบริหารงาน (Holding Company) ปัจจุบันการลงทุนของอินทัช สามารถจำแนกออกเป็น 3 สายธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมไร้สาย ธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจต่างประเทศ และธุรกิจอื่นๆ

โดยให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity Ratio หรือ ROE อยู่ที่ 47.33% และราคาหุ้นมี Upside อยู่ที่ 10.40% อีกทั้งให้อัตราเงินปันผลตอบแทน หรือ dividend yield  สูงถึง 5.28%

 

อันดับ 8 บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW กลุ่มบริษัทผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในฐานะรายใหญ่ (IPP – Independent Power Producer) ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและไอน้ำ (Cogeneration Business) ในฐานะผู้ผลิตรายเล็ก (SPP – Small Power Producer) รวมถึงการผลิตและจำหน่ายไอน้ำ และน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม (Processed Water) ให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและใกล้เคียง

โดยให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity Ratio หรือ ROE อยู่ที่ 17.12% และราคาหุ้นมี Upside อยู่ที่ 10.22% อีกทั้งให้อัตราเงินปันผลตอบแทน หรือ dividend yield  สูงถึง 6.73%

 

อันดับ 9 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ธุรกิจธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ โดยมีสาขาอยู่ทั่วภูมิภาคในประเทศไทย และในบางภูมิภาคหลักของโลก

โดยให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity Ratio หรือ ROE อยู่ที่ 17.12% และราคาหุ้นมี Upside อยู่ที่ 10.38% อีกทั้งให้อัตราเงินปันผลตอบแทน หรือ dividend yield  สูงถึง 4.71%

 

อันดับ 10 บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ VNG บริษัทและบริษัทย่อยผลิตและจำหน่ายแผ่นไม้ (Panel Board) เพื่อใช้ทดแทนไม้ธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง โดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือ แผ่นเอ็มดีเอฟ และแผ่นปาร์ติเกิ้ล จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ

โดยให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity Ratio หรือ ROE อยู่ที่ 18.70% และราคาหุ้นมี Upside อยู่ที่ 24.22% อีกทั้งให้อัตราเงินปันผลตอบแทน หรือ dividend yield  สูงถึง 4.10%

 

*ทั้งนี้ ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้นเป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบ การตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำหรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจ ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตามล้วนเป็นผลจากการใช้ วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button