TFD ร่วมทุนพันธมิตรผุดคอนโดฯย่านรัชดา มูลค่า 6.8 พันลบ. ขาย Q3/60

TFD ส่งบ.ย่อย “คราวน์ ดีเวลลอปเม้นท์” ร่วมทุนพันธมิตรผุดคอนโดฯย่านรัชดา มูลค่า 6.8 พันลบ. เปิดขาย Q3/60 คาดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 62


นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD เปิดเผยว่า วานนี้ 22 มิ.ย.60 บริษัท คราวน์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TFD ได้ลงนามในสัญญาร่วมทุน (Joint Venture Agreement) เพื่อจัดตั้ง บริษัท บีจีวาย แอนด์ ทีเอฟดี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โดยคราวน์ ดีเวลลอปเม้นท์ฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และบริษัท บิวตี้ ฮอนเนอร์ เอ็นเตอร์ไพร์ช ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่อยู่ในกลุ่มบริษัท คันทรี่ การ์เด้น กรุ๊ป ถือหุ้นในสัดส่วน 49%

สำหรับวัตถุประสงค์ในการลงทุนครั้งนี้ เพื่อร่วมลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียมและเรสซิเด้นท์ระดับพรีเมี่ยม เป็นอาคารพักอาศัยสูง 34 ชั้น จำนวน 4 อาคาร รวมทั้งสิ้น 1,337 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,800 ล้านบาท บนพื้นที่ 8 ไร่เศษ ขนาดพื้นที่ก่อสร้าง 120,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ใจกลางรัชดาภิเษกใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน MRT ซึ่งถือเป็นทำเลทองที่มีดีมานด์ความต้องการที่อยู่อาศัยสูงมาก โดยเตรียมที่จะเปิดขายโครงการในไตรมาส 3 ของปีนี้ พร้อมคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบได้ในปี 62

โดยโครงการคอนโดมิเนียมดังกล่าว โฟกัสที่กลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าระดับกลาง-บน และกลุ่มนักลงทุน นักธุรกิจจากประเทศจีน เนื่องจากสถานที่ตั้งของโครงการเป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ (New CBD)กำลังเป็นที่ต้องการเพราะถือเป็นโลเกชั่นที่มีศักยภาพในอนาคต พร้อมกันนี้ “คันทรี การ์เด้นฯ” มีแผนที่จะนำเอาโครงการนี้ไปโรดโชว์ที่ประเทศจีนด้วย ทำให้มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า และคาดว่าจะสามารถปิดการขายในส่วนของลูกค้าชาวจีน ซึ่งสามารถลงทุนได้ถึง 50% ของโครงการทั้งหมด ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว อันเป็นผลมาจากเครือข่ายที่แข็งแกร่งของ”คันทรี การ์เด้นฯ”

จากการร่วมมือกันในครั้งนี้จะส่งเสริมให้ TFD ดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและเป็นปัจจัยหนุนให้มีการเติบโตที่โดดเด่นต่อไปในอนาคต และต่อไปหาก “คันทรี การ์เด้น กรุ๊ป” ต้องการจะลงทุนโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติม ทางเราก็พร้อมที่จะขยายความร่วมมือทางธุรกิจไปด้วย โดยทาง”คันทรี่ การ์เด้น กรุ๊ป” ได้วางเป้าหมายไว้ว่าภายใน 3 ปี จะขึ้นแท่นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยให้ได้”นายอภิชัย กล่าว

ทั้งนี้ คันทรี่ การ์เด้น โฮลดิ้ง เป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นฮ่องกงตั้งแต่เดือน เม.ย.50  มีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 59 มากถึง 591.6 พันล้านหยวน ในด้านของผลการดำเนินงานปีล่าสุดมียอดขายมากถึง 308.8 พันล้านหยวน และมีรายได้รวมเท่ากับ 153.1 พันล้านหยวน  ขยายตัวถึง 35% เมื่อเปรียบกับกับปี 58 ที่ทำได้ 113.2 พันล้านหยวน  ปัจจุบันมีโครงการอยู่ภายใต้การดำเนินการทั้งสิ้น 728 โครงการ แบ่งเป็นในจีนจำนวน 722 ของโครงการ ส่วนที่เหลืออยู่ต่างประเทศคือ  4 โครงการในมาเลเซีย 1 โครงการในออสเตรเลีย และอีก 1 โครงการในอินโดนีเซีย

ก่อนหน้านี้ คันทรี่ การ์เด้น โฮลดิ้งส์ ตัดสินใจทุ่มงบประมาณกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 3.5 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างเมืองสีเขียวขนาดยักษ์ในโปรเจคท์สุดยิ่งใหญ่ที่มีชื่อว่าฟอเรสต์ ซิตี้ (Forest City) บนพื้นที่ในเมืองยะโฮร์บาห์รู ทางตอนใต้ของมาเลเซีย ซึ่งติดกับประเทศสิงคโปร์ ภายในพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 13.7 ตารางกิโลเมตร เพื่อสร้างเป็นคอมเพล็กซ์ที่อยู่อาศัยที่รองรับประชากรมากกว่า 700,000 ราย การก่อสร้างโครงการนี้จะเริ่มต้นขึ้นในเดือน ก.พ.60 ซึ่งขณะนี้มียอดขายอพาร์ตเมนท์แล้วกว่า 8,000 ห้องด้วยกัน

Back to top button