DTAC คาดรายได้-EBITDA ปีนี้โตกว่าปีก่อน หลังยอดใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้น
DTAC คาดรายได้-EBITDA ปีนี้โตกว่าปีก่อน หลังยอดใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิม 50%-เน้นออกแพ็กเกจใหม่หวังเพิ่มลูกค้ารายเดือน
นายสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC เปิดเผยว่า ในปี 60 จะทำรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) ไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่มีอยู่ 6.47 หมื่นล้านบาท และกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) มากกว่าปี 59 ที่อยู่ระดับ 2.79 หมืนล้านบาท
“เราคาดว่ารายได้ดีขึ้น ปีนี้เรามุ่งเน้นเรื่องรายได้ รายได้ปีนี้จะไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว EBITDA เป้าหมายสูงกว่าปีที่แล้ว DTAC ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมารายได้เราลดลง เราจะทำให้ turnaround รายได้ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาก็โตขึ้นบ้าง Market Share ขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 25.1% จากสิ้นปีที่แล้วอยู่ที่ 25% เราอยากทำธุรกิจแล้วมีกำไร เราจะเน้นเรื่องการทำกำไรและรายได้ “นายสิทธิโชค กล่าว
ส่วนรายได้จากการให้บริการข้อมูล (Data) ที่เพิ่มขึ้นจะเป็นตัวหนุนรายได้ โดยปีนี้คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากดาต้าเพิ่มเป็น 60% จากราว 50% ในปีก่อน ขณะที่รายได้จากบริการด้านเสียง (Voice) จะลดลง คาดว่ามีสัดส่วน 40% จากปีก่อน 50%
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทในช่วงปี 57-59 ลดลงต่อเนื่อง โดยรายได้รวม ปี 57,58, 59 อยู่ที่ 9.05 หมื่นล้านบาท, 8.78 หมื่นล้านบาท และ 8.25 หมื่นล้านบาทตามลำดับ ขณะเดียวกันกำไรสุทธิในช่วงปี 57, 58 ,59 ลดลงต่อเนื่องเช่นกัน ในปี 57 อยู่ที่ 1.07 หมื่นล้านบาท ในปี 58 อยู่ที่ 5.89 พันล้านบาท และปี 59 อยู่ที่ 2.09 พันล้านบาท
ส่วนในไตรมาสที่ 1/60 มีรายได้จากการให้บริการไม่รวม IC อยู่ที่ 1.62 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยมาจากการเติบโตของรายได้จากบริการข้อมูลและรายได้จากบริการระบบรายเดือน แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ลดลง 1.3%
สำหรับในช่วงไตรมาส 2/60 เชื่อว่าการแข่งขันยังสูงอยู่ และยังมีการแจกเครื่องมือถือเปล่าให้ลูกค้า โดยในส่วนของดีแทคก็ลดการแจกเครื่องเปล่า แต่หันมาใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการตลาด ได้แก่ แพ็กเกจ Unlimited Data ซึ่งช่วยเปลี่ยนตลาดที่เน้นใช้งานดาต้า
รวมทั้งการออกแพ็กเกจ Go No Limit ที่ออกเมื่อก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีของลูกค้า ทั้งนี้ลูกค้าของดีแทค มีการใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 6 กิ๊กกะไบท์ (GB) ต่อเดือนในปัจจุบัน จากปีก่อนมียอดใช้งาน 5GB ต่อเดือน
รวมทั้งลูกค้าเปลี่ยนมาเป็นระบบรายเดือน (Postpaid) มากขึ้น เพราะมีแพ็กเกจที่จูงใจ และคุ้มค่ากว่าอยู่ระบบเติมเงิน (Prepaid) ปัจจุบันมีฐานลูกค้ารายเดือนเพิ่มขึ้นมาเป็นประมาณกว่า 5-6 ล้านเลขหมาย จากปีก่อนมีลูกค้ารายเดือนอยู่ที่ 5 ล้านเลขหมาย เติบโต 10% และคาดว่าปีนี้ลูกค้ารายเดือนเพิ่มขึ้น 20%
“ในช่วงครึ่งปีหลังเราคง Aggressive มากขึ้น เราจะเน้น DTAC Reward ที่มีร้านค้าเข้าร่วมหลักหมื่นแล้วจากเดิม 5-6 พันร้านที่เพิ่มงบเท่าตัว มีการทำประชาสัมพันธ์ การโฆษณา ดีแทคจะดูแลลูกค้าเก่า เพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้”
สำหรับการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรบริหารคลื่นความถี่ 2300 MHz ของบมจ.ทีโอที จะเป็นจุดเปลี่ยนที่จะเพิ่มฐานลูกค้า เพราะคลื่นย่านนี้ใช้รองรับ 4G มากกว่า ซึ่งประเทศจีนก็ใช้คลื่นความถี่ย่านนี้ และคาดหวังจะให้ลูกค้าดีแทคได้รับประสบการณ์ที่ดี โดยปัจจุบันทีโอทีอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างสัญญา และคาดว่าจะมีการลงนามสัญญาได้ราวไตรมาส 4/60
โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/60 DTAC มีฐานลูกค้าจำนวน 24.3 ล้านเลขหมาย ลดลง 1.7 แสนเลขหมายในไตรมาสก่อน โดยมีจำนวนผู้ใช้งาน 4G ของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.9 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 24% ของฐานลูกค้าของบริษัท
นอกจากนี้ ดีแทคได้นำเสนอฟีเจอร์ซื้อดาต้าในแอป YouTube ให้ลูกค้าเพลิดเพลินกับการใช้งานแอปพลิเคชั่น YouTube ซึ่งเป็นบริการดูวิดีโอยอดนิยม ลูกค้าสามารถใช้งานได้สะดวกสบาย ไม่มีสะดุด เป็นการนำเสนอฟีเจอร์ที่ตอบสนองการใช้งานการชมวิดีโอผ่าน YouTube แบบอย่างเพลิดเพลินและไม่เสียอรรถรส
โดยเสนอทางเลือกให้กับลูกค้าสามารถซื้อแพ็กเกจดาต้าได้ทันทีเมื่อความเร็วอินเตอร์เน็ตของลูกค้าที่ใช้งานตามแพ็กเกจที่ใช้อยู่ใกล้ครบตามแพ็กเกจ ภายในแอปพลิเคชั่น YouTube ได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากหน้าจอ YouTube ทำให้การรับชมไม่สะดุด ซึ่งดีแทคเป็นผู้ให้บริการดิจิทัลรายแรกในไทยที่เปิดให้บริการฟีเจอร์นี้ร่วมกับแอปพลิเคชั่น YouTube ทั้งนี้ ลูกค้าดีแทคกว่า 90% ดู YouTube และใน 1 นาทีมีผู้ชม YouTube พร้อมกัน 5 แสนคน
“ฟีเจอร์ซื้อดาต้าในแอป YouTube อยากดูต้องได้ดู เป็นอีกหนึ่งบริการที่ดีแทคตอกย้ำ ข้อเสนอสินค้าและบริการ กับปรากฏการณ์ Flip It “พลิก” มุมมองให้ชีวิตง่ายกว่าที่เคย ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับความง่าย และตรงไปตรงมาในทุกการใช้งาน ปัจจุบันความนิยมของลูกค้าในการใช้ YouTube นั้นสูงมาก จากสถิติพบว่าลูกค้าใช้บริการจาก YouTube ถึง 1 ใน 3 ของการใช้งานดาต้าทั้งหมด
ดีแทคได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าให้สะดวกสบายมากขึ้น ผมเชื่อมั่นว่าฟีเจอร์ตัวใหม่นี้ จะตอบรับพฤติกรรมการดูวิดีโอสตรีมมิ่งออนไลน์ นอกจากนี้ดีแทคยังมีแพ็กเกจ GO โนลิมิต ที่ให้ลูกค้าดูวิดิโอสตรีมมิ่งผ่าน YouTube ฟรี เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ที่ลื่นอย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด ใช้ความเร็วสูงสุด ไม่อั้น ไม่ลดสปีด ดีแทคพัฒนาความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์บริการที่เข้าถึงและโดนใจลูกค้า พร้อมประสบการณ์ดิจิทัลอย่างไร้ขีดจำกัด”นายสิทธิโชค กล่าว