สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้

– ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.50 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 119.49/51 เยน/ดอลลาร์

– ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0832 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0813/0815 ดอลลาร์/ยูโร

– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,555.46 จุด เพิ่มขึ้น 10.62 จุด, +0.69%

– สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,171.31 ล้านบาท (SET+MAI)

 

– ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2559 ที่ 2.72 ล้านล้านบาท เป็นงบขาดดุลราว 3.9 แสนล้านบาท ทั้งนี้อยู่ภายใต้สมมติฐานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยจะเติบโตได้ 4% โดยในปีงบประมาณ 2559 ไว้วางแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไว้ที่ 1.38 แสนล้านบาท และแผนบริหารจัดการน้ำไว้ที่ 7 หมื่นล้านบาท

– ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดทรงตัวในวันนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.1% แตะ 407.45 เมื่อเวลา 08.21 น.ตามเวลาลอนดอน ในขณะที่นักลงทุนรอดูการรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ และดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเยอรมนีที่จะมีการเผยแพร่ในช่วงบ่ายวันนี้

– คณะกรรมาธิการฝ่ายจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้อนุมัติร่างกฎหมายการค้าแบบ fast-track และจะมีการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป โดยนับเป็นอีกก้าวหนึ่งที่จะผลักดันนโยบายการค้าของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐ มีแนวโน้มจะนำร่างกฎหมายดังกล่าวขึ้นพิจารณาในต้นเดือนพ.ค. แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าร่างกฎหมาย fast-track นี้จะได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอในทั้ง 2 สภาของคองเกรสหรือไม่

– สื่อต่างประเทศ เผยว่าบรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างประเมินว่ามีโอกาส 40% ที่กรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่โอกาสที่กรีซจะหลุดพ้นจากการเป็นสมาชิกของยูโรโซน อยู่ที่ 30% ทั้งนี้กรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระหนี้อีกงวดให้กับเจ้าหนี้ในเดือนพ.ค.ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงคลังยูโรโซนจะประชุมร่วมกันในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ และการให้เงินช่วยเหลืองวดต่อไป

– สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 51 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,050 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,196.85 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.52 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์