PACE วิ่งโร่ซบอกทุนจีน! หวังช่วยเคลียร์หนี้ SCB หมื่นล้านบาท

บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE ระบุว่า บริษัทร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่จากประเทศจีน ซิติค คอนสตรัคชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ยักษ์ใหญ่ด้านการก่อสร้างของจีน ซึ่งมีความแข็งแกร่งทั้งด้านการเงินและการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ เพื่อร่วมพัฒนาโครงการที่พักอาศัยแห่งใหม่บนที่ดินทำเลทองใจกลางกรุงเทพมหานคร

โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ซิติค คอนสตรัคชั่นจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบด้านการเงินและการก่อสร้าง ในขณะที่ PACE จะรับหน้าที่วางแผนด้านงานออกแบบ การขายและการตลาดทั้งหมด รวมถึงควบคุมคุณภาพการก่อสร้างเพื่อส่งมอบโครงการที่เหนือกว่ามาตรฐานตามแบบฉบับของเพซ โดยมี CITIC CLSA Securities รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของทั้งสองฝ่ายในการร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งรายละเอียดโครงการใหม่จะเปิดเผยให้ทราบในเร็วๆนี้

โดยแหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่าง PACE กับกลุ่มซิติคฯ จะแบ่งอออกเป็น 3 ด้านหลักๆ คือ กลุ่มซิติคฯ ซึ่งมีบริษัทในเครือเป็นสภาบันการเงินขนาดใหญ่ จะเข้ามาช่วย PACE ในด้านของการรีไฟแนนซ์หนี้ ซึ่งปัจจุบัน PACE มีหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง ทำให้มีปัญหาด้านต้นทุนทางการเงิน

“PACE เป็นลูกค้าของแบงก์ไทยพาณิชย์ (SCB) เขาน่าจะมีการกู้เงินจาก SCB เกือบๆ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งกลุ่มซิติคฯ จะเข้ามาช่วยรีไฟแนนซ์หนี้ตรงนี้ให้ เพื่อให้ดอกเบี้ยจ่ายของ PACE ถูกลง” แหล่งข่าว กล่าว

อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นกลุ่มซิคฯ จะเข้ามาช่วยเป็นฐานทุนให้กับ PACE เช่น หากมีการก่อสร้างในโครงการขนาดใหญ่ ทางกลุ่มซิติคฯ ก็จะมีการออกทุนไปก่อน เพื่อให้ PACE ให้เงินตนเอง หรือเงินที่ต้องไปกู้มาให้น้อยลง โดยกลุ่มซิติคฯ นั้น ถือว่ามีเทคโนโลยี และโนว์ฮาวเกี่ยวกับการก่อสร้าง ที่มีความทันสมัยมาก

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า เมื่อมีการรีไฟแนนซ์หนี้ รวมถึงการถ่ายทอดโนว์ฮาวต่างๆ ให้กับ PACE รวมถึงความร่วมมือการลงทุนในโครงการต่างๆแล้ว ทางกลุ่มซิติคฯ ก็มีแผนในระยะต่อไปว่า อาจจะเข้ามาลงทุนโดยตรงใน PACE

ทั้งนี้ แหล่งข่าวยืนยันด้วยว่า PACE ไม่ได้มีปัญหาด้านสภาพคล่อง และสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ของ PACE ก็ยังให้การสนับสนุนทางการเงินอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีการแจ้งข่าวว่า ทาง PACE ได้รับการอุดหนุนทางการเงินกับสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่กว่า 825 ล้านบาท เพื่อใช้ชำระหนี้ตั๋วบี/อี ขณะที่ยอดโอนคอนโดนริทซ์-คาร์ตัน ในตึกมหานคร มียอดโอนแล้ว 30% และเตรียมรับรู้รายได้จากยอดแบ็กล็อกอีกว่า 6.4 พันล้านบาท

นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า สถาบันการเงินยักษ์ดังกล่าว คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของ PACE อยู่ก่อนหน้านี้

 

ด้าน นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PACE เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นสัญญาณที่ดี ที่กลุ่มทุนจากจีนเล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยและแสดงถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจของ PACE โดยซิติค คอนสตรัคชั่นถือเป็นหนึ่งในบริษัทก่อสร้างและวิศวกรรมอันดับต้นๆ ของโลก โดยมีความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างแลนด์มาร์คที่เป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ และยังมีสถาบันการเงินเป็นของตัวเอง คือ ซิติค แบงค์

“บริษัทเชื่อมั่นว่าการมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งอย่างซิติค คอนสตรัคชั่นจะช่วยทำให้บริษัทสามารถสร้างสรรค์โครงการที่วางแผนไว้ได้เร็วขึ้น ทั้งยังสามารถส่งเสริมบริษัทในฐานะผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับในมาตรฐานระดับโลกได้มากขึ้น และทั้ง 2 ฝ่ายจะได้รับประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญของกันและกัน เพื่อพัฒนาแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ในอนาคต” นายสรพจน์กล่าว

ขณะที่ นายเฉิน กัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิติค คอนสตรัคชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าลงทุนที่สุดในเอเชีย ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐบาลในการเร่งวางรากฐาน ทั้งส่วนผังเมืองและสาธารณูปโภคอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรองรับการขยายตัวอย่างรวดเร็วของกรุงเทพฯ เพื่อเป็นเมืองจุดหมายเศรษฐกิจสำคัญในเอเชีย และกรุงเทพฯ เองยังมีการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ในทุกภาคส่วน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซ็กเมนต์อสังหาริมทรัพย์ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ซึ่งเป็นตลาดที่ PACE มีความเชี่ยวชาญ คาดว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยต่อยอดความสำเร็จของทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากโครงการใหม่บนที่ดินทำเลทองใจกลางเมือง ซึ่งจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้