VTE เล่นของร้อน! หลังทุ่มเงิน 126 ลบ. เทกฯ โรงไฟฟ้า IFEC

นายโสรัจ โรจนเบญจกุล ประธานกรรมการ บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ VTE เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นและหนี้เพื่อเข้าซื้อหุ้นของกิจการ 1 แห่งจากทั้งหมด 4 แห่งคือ บริษัท วี.โอ.เน็ต ไบโอดีเซล เอเซีย จำกัด (VON) จากบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC (ผู้ขาย) ในจำนวน 199,996 หุ้น

รวมทั้งซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายอื่นของ VON จานวน 1 หุ้น รวมจำนวน 199,997 หุ้น (หุ้นที่ซื้อขาย) คิดเป็นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ VON ในราคาซื้อขายทั้งสิ้นไม่เกิน 26,809,661.99 บาท และรับโอนหนี้ที่ IFEC เป็นเจ้าหนี้ VON มูลค่า 100,097,457.53 บาท ในราคาโอนสิทธิ จำนวน 100,000,000 บาท รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 126,809,661.99 บาท

โดยมอบอำนาจให้นายโสรัจ โรจนเบญจกุล มีอำนาจดำเนินการแทนบริษัทฯ ในการทำความตกลงและลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและหนี้ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการดำเนินการอื่นใดอันจำเป็นและเกี่ยวข้องกับการเข้าลงทุน และในวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 คู่สัญญาตามสัญญาได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและหนี้เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้การที่บริษัทตกลงเข้าซื้อขายหุ้นและหนี้เพื่อเข้าซื้อหุ้นของกิจการ 1 แห่งจากทั้งหมด 4 แห่งคือ VON นั้น เนื่องจากบริษัทและผู้ขายไม่สามารถตกลงเรื่องราคาซื้อขายกิจการโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 3 แห่ง ได้ เนื่องจากจากการพิจารณาผลการตรวจสอบสถานะของโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 3 แห่งพบว่า บริษัทจะต้องมีการจ่ายเงินค่าซ่อมแซมโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมเพื่อให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐาน

ขณะที่การซื้อหุ้น VON บริษัทไม่ต้องจ่ายเงินค่าซ่อมแซมโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม เนื่องจาก ประเด็นที่พบใน VON โดยส่วนใหญ่เป็นประเด็นที่สามารถแก้ไขได้ก่อนวันที่เข้าทำธุรกรรมซื้อขาย (Closing date) โดยบริษัทมีความเห็นว่า โครงการการซื้อขายกิจการโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์นี้ ณ ปัจจุบันเกิดความล่าช้าเป็นอย่างมาก โดยบริษัทได้ใช้เวลาในการเจรจามาแล้วกว่า 6 เดือน

ดังนั้น หากบริษัทยังคงดำเนินการเจรจาเพื่อซื้อโรงไฟฟ้าให้ครบทั้ง 4 แห่งตามเดิม จะส่งผลให้การดำเนินการซื้อกิจการโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ล่าช้าไปกว่าเดิม ซึ่งจะเพิ่มความไม่แน่นอนในการทำรายการและอาจส่งผลกระทบในทางลบทางการเงินของบริษัท อีกทั้ง บริษัทยังอาจขาดโอกาสที่สำคัญในการได้มาซึ่งกิจการโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะสามารถเพิ่มรายได้และสร้างผลกาไรให้กับบริษัทฯ ได้

ถึงแม้ว่าบริษัทจะตัดสินใจเข้าซื้อขายหุ้นและหนี้เพื่อเข้าซื้อหุ้นของ VON เพียงบริษัทเดียว บริษัทมิได้รับผลกระทบใดๆ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของกฎหมายและการลงทุนเนื่องจากเป็นกรณีที่บริษัทฯ และผู้ขายไม่สามารถตกลงกันได้ภายหลังการพิจารณาผลการตรวจสอบสถานะกิจการโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 3 แห่ง

อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ยังได้รับผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจจากการลงทุนดังกล่าว กล่าวคือ ในการเข้าทารายการครั้งนี้จะก่อให้เกิดรายได้และสร้างผลกาไรให้กับบริษัทในระยะยาวและจะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับโครงการ (Project IRR) ไม่ต่ำกว่าในอัตราร้อยละ 8-9

อนึ่ง VON เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย มีที่อยู่จดทะเบียนอยู่ที่ 223 หมู่ 15 ตำบลหัวนาคา อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ 46120 โดย VON ประกอบกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิต 1.267 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ VON ถือหุ้นในบริษัทย่อยคือ บริษัท วี.โอ.โซล่าร์ จากัด (V Solar) จานวนร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ V Solar โดย V Solar เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านพลังงาน

สำหรับการชำระราคาซื้อขาย มีรายละเอียดการชำระและเงื่อนไขในการชำระและการปรับราคาซื้อขายดังต่อไปนี้

ก. งวดที่หนึ่ง จำนวน 10,000,000 บาท ชำระในวันที่ทำสัญญาซื้อขายหุ้นและหนี้ และได้รับมอบเอกสารจากทางผู้ขายครบถ้วน

ข. งวดที่สอง จำนวน 5,000,000 บาท ชำระภายในกำหนดระยะเวลา 60 วัน นับจากวันที่ทาสัญญาซื้อขายหุ้นและหนี้

ค. งวดที่สาม จำนวน 8,300,000 บาท ชำระภายในกำหนดระยะเวลา 90 วันนับจากวันที่ทำสัญญาซื้อขายหุ้นและหนี้ โดยผู้ขายจะต้องดำเนินการซื้อหุ้นของ V Solar จาก VON ก่อนวันที่บริษัทฯ ชำระเงินงวดที่ 3 ดังกล่าว

ง. งวดที่สี่ จำนวนไม่เกิน 3,509,661.99 บาท โดยบริษัทฯจะชำระเงินเท่ากับจานวนเงินที่ VON จะได้รับชำระเงินจากลูกหนี้การค้าของ VON (อ้างอิงลูกหนี้การค้าตามงบการเงินของ VON ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560) โดยจะดำเนินการภายในกำหนดระยะเวลา 90 วันนับจากวันที่ทำสัญญาซื้อขายหุ้นและหนี้