BANPU บวกเกือบ 3% หลังยันน้ำท่วมจีนไม่กระทบราคาถ่านหิน
BANPU บวกเกือบ 3% หลังยันน้ำท่วมจีนไม่กระทบราคาถ่านหิน โดยปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ 15.90 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 2.58% สูงสุดที่ 16 บาท ต่ำสุดที่ 15.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 1.27 พันล้านบาท ด้าน โบรกฯ คาด Technical Rebound หลังราคาปรับลงแรงก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU โดยปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ 15.90 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 2.58% สูงสุดที่ 16 บาท ต่ำสุดที่ 15.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 1.27 พันล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.11%
โดย นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU เปิดเผยว่า ธุรกิจถ่านหินไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในภาคใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีนเนื่องจากการขายถ่านหินในจีนไม่ได้พึ่งพาระบบราง ขณะที่ในทางตรงข้ามผลจากน้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ราคาถ่านหินปรับเพิ่มขึ้น ทั้งในตลาดภายในของจีนและในตลาดโลก เนื่องจากจีนต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาถ่านคุณภาพมาตราฐานขยับสูงขึ้น 20 หยวนต่อตัน เป็น 592 หยวนต่อตัน
สำหรับประเด็นการจำกัดการนำเข้าถ่านหิน บริษัทคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการนำเข้าถ่านหินที่ประเทศจีนของบริษัทเกือบทั้งหมดนำเข้าผ่านท่าเรือขนาดใหญ่ ซึ่ง BANPU จะยังสามารถดำเนินการผลิตถ่านหินได้อยางต่อเนื่อง และผลประกอบการยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยได้รับการสนับสนุนจากราคาถ่านหินที่ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไว้แล้วในระดับที่ดี
ด้าน บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ (6 ก.ค.) ว่า กลุ่มที่ลงหนักผิดปกติจากการ Short ผ่าน Block Trade มีโอกาสถูก Cover Short มอง BANPU เด่นสุด มีโอกาสทำ Technical Rebound โดยราคาหุ้นปรับลงรุนแรงต่อเนื่อง มองโซนแนวรับ 15-15.5 บาท ถือเป็นโซนที่น่าเข้าเก็บเพื่อเก็งกำไร เนื่องจากมี Upside จากระดับเป้าหมาย 12 – 16%
ทั้งนี้ ราคายังมีผลกระทบของการปรับสมมุติฐานค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น และราคาถ่านหินที่ค่อนข้างอ่อนแอในระยะยาวจากโอกาสที่ประเทศผู้นำเข้าหลัก 3 ประเทศ (จีน อินเดีย และเกาหลีใต้) อาจมีการนำเข้าถ่านหินที่ลดลงสืบเนื่องจากนโยบายรัฐและต้นทุนการลงทุนที่ลดลงสนับสนุนให้มีการพัฒนาพลังงานทดแทนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลประกอบไตรมาส 2/60 จะยังคงปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน มาอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากปริมาณถ่านหินและราคาขายถ่านหินเฉลี่ยที่สูงขึ้น ประกอบกับอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นของโรงไฟฟ้าหงสา และการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง