หุ้นยุโรปปิดวานนี้ร่วง ตลาดวิตกข้อมูลศก.สหรัฐซบเซา

สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) หลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.ของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.5% ปิดที่ 406.28 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,173.38 จุด ร่วงลง 95.53 จุด หรือ -1.81%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,811.66 จุด ดิ่งลง 227.50 จุด หรือ -1.89% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,030.53 จุด ลดลง 73.45 จุด หรือ -1.03%

ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงหลังจากผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงในเดือนเม.ย. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยถูกกระทบจากการจ้างงานที่ชะลอตัว ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงลงสู่ระดับ 95.2 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หลังพุ่งแตะระดับ 101.4 ในเดือนมี.ค.

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยลบจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดที่เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด และยังได้ฉุดหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดร่วงลง 3.2% หุ้นกลุมเวชภัณฑ์ร่วงลง โดยหุ้นไชร์ หุ้นโนโว นอร์ดิค และหุ้นแอสทราเซเนก้า ต่างก็ร่วงลง 3%

ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมระยะเวลา 2 วันของเฟดซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธตามเวลาสหรัฐ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงการประชุมเดือนก.ย. เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ