“ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์” คาดขายหุ้น IPO 164 ล้านหุ้นใน Q3/60
“ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์" หรือ III ผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร ยื่นไฟลิ่งหวังเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 164.5 ล้านหุ้นได้ใน Q3/60 หวังเข้าเทรด SET โดยมี ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III เปิดเผยว่า บริษัทยื่นคำขออนุญาตเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และมีแผนจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 164,500,000 หุ้น ที่มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 27% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเพิ่มทุนจดทะเบียน ให้แก่นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายย่อยและพนักงานของบริษัท คาดว่าจะดำเนินการภายในไตรมาส 3/60
โดย ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 302.25 ล้านบาท กลุ่มผู้บริหารถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 94.2% และจะลดสัดส่วนหุ้นลงเหลือ 68.6% ภายหลังการเพิ่มทุนด้วยการขายหุ้น IPO ซึ่งเป็นหุ้นใหม่ทั้งหมด โดยในการเพิ่มทุนครั้งนี้ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ ผู้รับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯ ซึ่งจะใช้สัญลักษณ์ “III” ในการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ
อนึ่ง III เป็นผู้นำในการให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรซึ่งครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 1.การขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight) 2.การขนส่งสินค้าทางทะเลและทางบก (Sea Freight and Inland Transport) 3.การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ การบริหารคลังสินค้า และการกระจายสินค้า (Logistics Management) และ 4.โลจิสติกส์ครบวงจรสำหรับเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย (Chemical & Specialty Logistics) โดยบริษัทฯ ก่อตั้งมากว่า 25 ปี มีบริษัทในเครือทั้งหมด 24 บริษัท และมีฐานลูกค้าเป็นบริษัทมหาชน บริษัทข้ามชาติ และบริษัทไทยจำนวนมาก
ขณะที่บริษัทมีแผนจะขยายกิจการและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ ด้วยแผนการลงทุนในโครงการใหม่กว่า 10 โครงการ ทั้งในธุรกิจขนส่งทางอากาศ อาทิ โครงการศูนย์ขนส่งสินค้าทางอากาศ (Airport Cargo Terminal) และในธุรกิจบริการ โลจิสติกส์เคมีภัณฑ์ ซึ่งเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ตลอดจนถึงการลงทุนในธุรกิจการขนส่งทางบก เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนมากกว่า 200 ล้านบาทภายในปีนี้และปีหน้า
“และด้วยแผนการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็คของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้เกิดการขยายตัวของอุตสาหกรรมต่างๆ จำนวนมาก การขยายตัวของเศรษฐกิจการค้าของประเทศในกลุ่มอาเซียน ตลอดจนการขยายตัวอย่างรวดเร็วของธุรกิจ อี คอมเมิร์ซ ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น” นายทิพย์ กล่าว
ด้าน นายวิรัช มรกตกาล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายวาณิชธนกิจ CIMBT กล่าวว่า III เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่แข็งแกร่ง และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่เติบโตสูง และ มีคู่แข่งน้อยราย คือ ธุรกิจขนส่งทางอากาศ และ โลจิสติกส์เคมีภัณฑ์ ที่สำคัญทีมผู้บริหารของบริษัทมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจโลจิสติกส์ระดับนานาชาติมากว่า 25 ปี และดำเนินธุรกิจด้วยทีมงานมืออาชีพ มีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง มีระบบการทำงานที่เป็นมืออาชีพ ทำให้ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติซึ่งมีความมั่นคงทางการเงินสูง ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ มีสถานะการเงินที่เข้มแข็งมาก และมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและพาณิชย์
ทั้งนี้ในธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนสายการบินชั้นนำหลายสาย อาทิ สายการบินไทยแอร์เอเชีย และ สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ในการขายระวางการขนส่งทางอากาศอย่างต่อเนื่องมากว่า 8 ปี ซึ่งทั้ง 2 สายการบินเป็นเจ้าตลาดการขนส่งแอร์คาร์โก้จากท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งมีการเติบโตสูงและต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯมีส่วนแบ่งตลาดแอร์ คาร์โก้ จากท่าอากาศยานดอนเมืองสูงถึง 89% ในปี 59
สำหรับการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศของบริษัทฯ ยังมีการขยายตัวอย่างสูง ทั้งในรูปแบบการขายระวางสินค้าแบบขายส่ง และการให้บริการคลังสินค้าในท่าอากาศยาน ทำให้ภาพรวมของอัตราการเติบโตของธุรกิจแอร์ คาร์โก้ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 51% ในช่วง 2 ปีล่าสุด ทางด้านธุรกิจขนส่งเคมีภัณฑ์และวัตถุอันตราย บริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดจากการเป็นผู้ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่การขายระวางการขนส่งสินค้าเคมี ทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก บริการคลังสินค้าเคมี บริการการกระจายสินค้า
รวมถึงให้บริการบรรจุภัณฑ์ โดยตลาดเคมีภัณฑ์เป็นตลาดเฉพาะด้านที่มีมูลค่าสูง เพราะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ จึงมีคู่แข่งน้อยราย ในขณะที่มีลูกค้าเป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่จำนวนมาก จึงทำให้กลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าเคมีภัณฑ์มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ 15% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
สำหรับธุรกิจการขนส่งทางทะเลและทางบก บริษัทยังเป็นตัวแทนให้แก่ “ซีเค ไลน์” ซึ่งเป็นสายการเดินเรือชั้นนำของประเทศเกาหลีใต้ นอกจากนี้ยังมีการร่วมทุนกับ บริษัท เอ็คคู่ เวิร์ลไวด์ จำกัด ผู้นำระดับโลกในการขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ (LCL) รวมถึงมีการขยายการให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางบก
ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจการบริหารโลจิสติกส์สำหรับสินค้าทั่วไป บริษัทมีศักยภาพการให้บริการด้านซัพพลายเชนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้แก่ผู้นำเข้าและผู้ส่งออก โดยมีบริการทั้งการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่ครอบคลุมทั่วโลก การให้บริการคลังสินค้า การบริหารสินค้าคงคลัง ตลอดจนการกระจายสินค้าให้แก่ลูกค้าทั้ง B2B และ B2C ทั่วประเทศ
ด้านนายวิรัช นอบน้อมธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน III เปิดเผยว่า บริษัทมีผลประกอบการเติบโตสูงและต่อเนื่อง โดยรายได้รวมเติบโตเฉลี่ยปีละ 35% คิดเป็น 2,075 ล้านบาทในปี 59 จากรายได้รวม 1,542 ล้านบาทในปี 58 และ 1,139 ล้านบาทในปี 57 จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขายระวางสินค้าและการให้บริการโลจิสติกส์
ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตในอัตราที่สูง 245% เป็น 94.5 ล้านบาทในปี 59 จากกำไรสุทธิ 27.4 ล้านบาทในปี 58 และ 13.4 ล้านบาทในปี 57 ความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นอย่างโดดเด่นมาจากการบริหารจัดการรายได้และต้นทุนที่ดีขึ้น โดยอัตรากำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นจาก 1.17% ในปี 57 เป็น 4.50% ในปี 59
สำหรับในไตรมาส 1/60 บริษัทมีรายได้รวมเติบโตขึ้น 17% มาที่ 535 ล้านบาท จาก 457 ล้านบาทในไตรมาส 1/59 และกำไรสุทธิเติบโตขึ้น 49% มาที่ 40.3 ล้านบาท จาก 27 ล้านบาทในไตรมาส 1/59 สถานะการเงิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) สูงถึง 46% และมีอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) สูงถึง 15.5% ในขณะที่มีอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/E) ที่ 0.3 เท่า