ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง “ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์” จ่อเข้าเทรด SET ปีนี้

ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง "ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์" หรือ SKN ผู้ผลิตและส่งออกแผ่นไม้เอ็มดีเอฟ เตรียมเข้าเทรด SET ภายในปีนี้ หวังระดมทุนเพื่อขยายกำลังผลิต-รองรับการเติบโต-ชำระเงินกู้ยืมระยะยาว โดยมี บล.ทิสโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


นายทวีชัย ตั้งธนทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด หรือ บล.ทิสโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายของบริษัท ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKN เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และแบบแสดงรายการข้อมูลฯ (ไฟลิ่ง) ของ SKN แล้วเมื่อวันที่ 19 ก.ค.60

โดยคาดจะสามารถระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในปีนี้ ทั้งนี้ปัจจุบัน SKN มีทุนจดทะเบียนจำนวน 800 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 800 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ทุนเรียกชำระแล้ว 600 ล้านบาท และเสนอขายหุ้นไอพีโอ 200 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25 ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้

สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการระดมทุนครั้งนี้ คือเพื่อลงทุนเพิ่มสายการผลิตอีก 1 สาย ซึ่งจะช่วยขยายกำลังการผลิตของบริษัทอีกกว่า 1 เท่าตัว จากกำลังการผลิตแผ่นไม้เอ็มดีเอฟในปัจจุบันที่ 240,000 ลบ.ม. เป็น 500,000 ลบ.ม. ภายในกลางไตรมาสที่ 3 ปี 61 เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและคู่ค้าซึ่งมีอยู่ทั่วโลก ส่วนที่เหลือจากโครงการข้างต้นจะถูกนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต และชำระเงินกู้ยืมระยะยาวเพื่อเสริมสร้างฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ส่วนจุดเด่นของธุรกิจ SKN ในฐานะผู้ผลิตและส่งออกแผ่นไม้เอ็มดีเอฟชั้นนำของประเทศที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง จากความเข้มแข็งของทีมบริหารซึ่งอยู่ในวงการธุรกิจไม้มายาวนาน ทำให้มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเป็นอย่างดี รวมถึงที่ตั้งของโรงงานที่อยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบ เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตมีเทคโนโลยีทันสมัย ความสามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 59 มีอัตรากำไรขั้นต้น 36.72% อัตรากำไรสุทธิ 17.60%

ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพการผลิตมาเป็นอันดับหนึ่ง จากการทำวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการแผ่นไม้เอ็มดีเอฟที่เติบโตต่อเนื่องทุกปี จึงเชื่อว่า หลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ SKN จะเป็นอีกบริษัทจดทะเบียนคุณภาพที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีและน่าจับตามอง

ด้าน นายวิชัย แสงวงศ์กิจ กรรมการผู้จัดการ SKN เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาแนวโน้มความต้องการใช้แผ่นไม้เอ็มดีเอฟในตลาดโลกที่สูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยในปี 58 ประเทศไทยมีสัดส่วนการส่งออกแผ่นไม้เอ็มดีเอฟสูงเป็นอันดับที่ 4 ของโลก

โดยจะเห็นได้จากการที่บริษัทได้รับการติดต่อจากลูกค้าเพื่อสั่งซื้อแผ่นไม้เอ็มดีเอฟเพิ่มเติม แต่เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตในปัจจุบันของบริษัทอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จึงทำให้ต้องปฏิเสธคำสั่งซื้อดังกล่าวไป ซึ่งเป็นเหตุผลหลักของการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ เพื่อนำมาใช้ขยายกำลังการผลิตให้เพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว เพื่อสนับสนุนให้บริษัทสร้างการเติบโตอย่างโดดเด่นในระยะยาวและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่

หัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ คือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล การบริหารจัดการที่ดี และการส่งมอบสินค้าได้ตรงตามเวลาที่กำหนด ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะยิ่งสนับสนุนให้ ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมรุกตลาดแผ่นไม้เอ็มดีเอฟไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั่วโลกได้มากยิ่งขึ้น” นายวิชัย กล่าว

Back to top button