TAKUNI คว้างานใหม่ 156 ลบ. ตุนแบ็คล็อกเพียบทยอยบุ๊ครายได้ต่อเนื่อง

TAKUNI คว้างานรับเหมาก่อสร้างใหม่ มูลค่ารวม 156 ล้านบาท ตุนแบ็คล็อกเพียบพร้อมทยอยบุ๊ครายได้ต่อเนื่อง – จ่อปรับกลยุทธ์เร่งหางานก่อสร้างใหม่เพิ่ม หวังชดเชยรายได้ธุรกิจก๊าซชะลอตัว


นางสาวนิตา ตรีวีรานุวัฒน์ รองกรรมการ บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI เปิดเผยว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2560 ทางบริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด ที่เป็นบริษัทย่อยได้เข้ารับงานรับเหมาก่อสร้างโยธามูลค่ารวม 156,300,000 บาท มีพื้นที่ตั้งโครงการอยู่ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดอยุธยา มีระยะเวลาในการก่อสร้าง 16 เดือน

โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (แบ็กล็อก) จำนวน 528 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ 1-2 ปี (ไม่รวมงานก่อสร้างโยธาล่าสุด) แบ่งเป็น งานก่อสร้างถังกักเก็บก๊าซของกลุ่มบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT มูลค่า 330 ล้านบาท และที่เหลือจะเป็นงานจากโครงการอื่นๆ

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2560 ทางบริษัทคาดรายได้จะทรงตัวจากปี 2559 ที่อยู่ระดับ 1,652 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทมีปริมาณขายก๊าซน้อยลง ส่วนธุรกิจอื่นๆ ยังมีผลการดำเนินงานทรงตัวจากปี 2559 โดยปัจจุบันรายได้หลักบริษัทยังมาจากกลุ่มธุรกิจก๊าซ 50% และธุรกิจก่อสร้าง 50%

ทั้งนี้ ในปี 2560 ทางบริษัทยังไม่มีแผนการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งในอนาคตบริษัทจะมีการปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน ด้วยการเร่งดำเนินการหางานก่อสร้างใหม่หรือเข้ารับงานก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น เพราะมีความต้องการสร้างรายได้จากธุรกิจนี้เข้ามาชดเชยฐานรายได้จากการขายก๊าซที่ลดลง

นางสาวนิตา กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังปี 2560 จะยังทรงตัวต่อจากงวดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังมีแผนเข้าประมูลงานก่อสร้างกลุ่มบริษัท PTT เพิ่มเติมอีกหลายโครงการ ประกอบกับรับรู้รายได้จากการประมูลงานก่อสร้างถังกักเก็บก๊าซ จากบริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (PTT Tank Terminal Co.,LTD ) มูลค่างาน 330 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4/60 เข้าช่วยสนับสนุนงบครึ่งปีหลังได้

สำหรับภาพรวมการขายก๊าซภายในประเทศงวดปี 2560 คาดจะปรับตัวลดลง 15% จากงวดปี 2559 ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการใช้ก๊าซเติมรถยนต์น้อยลงกว่าเดิม อีกทั้ง สถานการณ์ราคาน้ำมันในปัจจุบันที่ปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวระดับต่ำ ได้ส่งผลให้ทางประชาชนส่วนใหญ่หันมาเติมน้ำมันแทนมากขึ้น ดังนั้น หากราคาน้ำมันยังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องอาจจะส่งผลกระทบไปจนช่วงปี 2561

ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันทางบริษัทได้ดำเนินการซื้อที่ดิน จำนวน 12 ไร่ ในเขตพื้นที่ บางแค ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ประมาณ 800 เมตร มูลค่าประมาณ 90 ล้านบาท อีกทั้ง ยังมีแผนเข้าซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีกจำนวน 5 ไร่ ในพื้นที่บริเวณเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันทางบริษัทได้อยู่ในช่วงระหว่างการประเมินราคา และคาดจะนำที่ดินดังกล่าวไปสร้างเป็นทาวน์โฮม โดยจะได้ข้อสรุปประมาณช่วงปี 2562

Back to top button