SCB เผยกำไร Q2 ลดลงเล็กน้อยเพียง 7% หลังค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.60 (รวมบริษัทย่อย) ดังนี้

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวมีกำไรลดลงเป็นผลจากธนาคารมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 1.12 หมื่นล้านบาท ลดลงร้อยละ 26.1 จากจำนวน 1.51 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 2/59 เรื่องจากการกลับรายการสำรองประกันภัยของ SCB Life ในไตรมาส 2/59

อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายได้ดังกล่าว รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 จากปีก่อน เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิจากค่าธรรมเนียมจากกองทุนรวม ค่าธรรมเนียมจาก bancassurance และค่าธรรมเนียมบริการการเงิน เพื่อธุรกิจ (corporate finance) กำีไรจากธุรกรรมเพื่อค่าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และรายได้อื่นเพิ่มขึ้น จากการได้รับการชดเชยจากประกันที่เกี่ยวข้องกับกรณีการทุจริตในไตรมาส 1/58

นอกจากนี้ธนาคารมีค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยจำนวน 1.43 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากจำนวน 1.25 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 2.59 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 จากการปรับเงินเดือนประจำปีและจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.1 ส่วนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคาร สถานที่และอุปกรณ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8

ขณะที่ธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเป็นจำนวน 5.01 พันล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.02 ของสินเชื่อรวม โดยสำรองหนี้สูญในไตรมาสนี้อยู่ในระดับเดียวกับไตรมาส 1/60 แต่ลดลงจากจำนวน 8.51 พันล้านบาทในไตรมาส 2/59 เนื่องจากธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญพิเศษในไตรมาสดังกล่าว

นอกจากนี้ ณ สิ้นเดือนมิ.ย.60 ธนาคารมีอัตราส่วนสินเชื่อด้วยคุณภาพก่อนหักเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (gross NPLs) ตามงบการเงินรวมเท่ากับร้อยละ 2.65 ของสินเชื่อรวม ลดลงจากร้อยละ 2.77 ณ สิ้นเดือนมิ.ย.59 ส่วนใหญ่จากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ในขณะที่สินเชื่อด้อยคุณภาพของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและ สินเชื่อเคหะที่ผู้กู้เป็นผู้ประกอบการรายย่อย (Self employed) ยังคงปรับตัวสูงขึ้นเนื่องด้วยการฟื้นตัวที่ช้าของเศรษฐกิจไทย