THCOMคงเป้ารายได้ปีนี้1.2หมื่นลบ.ชี้ซอฟต์แบงก์เลิกเช่าไทยคม9ไม่กระทบ
THCOM คงเป้ารายได้ปี 60 ใกล้เคียงปี 59 ที่ 1.21 หมื่นลบ. ชี้ “ซอฟต์แบงก์ฯ” ยกเลิกสัญญาเช่าดาวเทียมไทยคม 9 ไม่กระทบ
นายไพบูลย์ ภานุวัฒนวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้รวมในปี 2560 ที่คาดว่าจะมีรายได้ใกล้เคียงกับปี 2559 ที่บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 12,069.34 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้บริษัทจะยังไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท คือ ซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป บริษัทเทเลคอมและอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันเช่าใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมของไทยคม 4 อยู่นั้น ขอยกเลิกสัญญาการเช่าใช้งานดาวเทียมไทยคม 9 เมื่อเดือน เม.ย. 2560 ที่ผ่านมา
“เดิมทีซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป ต้องการเช่าใช้งานถึง 30% ของช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม 9 หรือคิดเป็น 1.5 กิกะไบต์ โดยยื่นข้อเสนอให้บริษัทสร้างดาวเทียมให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 เพื่อวางแผนธุรกิจล่วงหน้าก่อนที่ดาวเทียมไทยคม 4 หรือไอพีสตาร์ จะหมดอายุการใช้งานในปี 2564 แต่รัฐบาลไม่มีความชัดเจนในการบริหารจัดการดาวเทียมของประเทศ ล่าช้ามากว่า 1 ปี ทำให้ซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป ได้ยกเลิกไป” นายไพบูลย์ กล่าว
ทั้งนี้ ในปัจจุบันซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อหาดาวเทียมมาทดแทน หลังจากยกเลิกสัญญาการเช่าใช้งานดาวเทียมไทยคม 9 ไป เพื่อรองรับก่อนดาวเทียมไทยคม 4 หรือไอพีสตาร์ จะหมดอายุการใช้งานในปี 2564 ซึ่งหากซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป หาดาวเทียมประเทศอื่นได้ จะทำให้บริษัทสูญเสียโอกาส และรายได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมา ซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป สร้างรายได้ให้แก่บริษัทไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านเยน/ปี หรือประมาณ 300 ล้านบาท/ปี ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ และมีศักยภาพที่สูงมาก
อย่างไรก็ตาม มองว่าซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป จะหาดาวเทียมดวงอื่นๆ ที่จะมีลักษณะเหมือนกับดาวเทียมไทยคม 4 ค่อนข้างยาก หากจะไปใช้ดาวเทียมดวงอื่นที่มีอยู่ปัจจุบัน อาจจะต้องใช้ถึง 2 ดวง ทำให้บริษัทยังมีโอกาสที่จะไปเจรจากับซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป ได้ ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลมีความชัดเจนในปีนี้ เพราะหากปี 2561 ยังไม่มีความชัดเจน ก็ยากที่จะส่งดาวเทียมไทยคม 9 ขึ้นได้ทันกับที่ดาวเทียมไทยคม 4 หมดอายุการใช้งานในปี 2564 เนื่องจากการสร้างดาวเทียมใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปี
ขณะเดียวกัน บริษัทหาแนวทางในการรองรับการดำเนินธุรกิจไว้ด้วย โดยอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศในการทำโครงการดาวเทียม โดยมีเป้าหมายที่จะบริหารจัดการให้สามารถนำดาวเทียมขึ้นใช้งาน เพื่อให้ส่งมอบการบริการรแก่ลูกค้าได้
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า ผลการดำเนินงานของ THCOM ในไตรมาส 2/2560 คาดมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 166 ล้านบาท ลดลง 36% จากไตรมาส 1/2560 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 259 ล้านบาท และลดลง 72% จากไตรมาส 2/2559 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 591 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการใช้งานของดาวเทียมของ THCOM จะยังคงลดลงต่อเนื่องในไตรมาส 2/2560 โดยคาดว่าการใช้งานดาวเทียมแบบดั้งเดิม (ไทยคม 5, ไทยคม 6, ไทยคม 7 และไทยคม 8) จะลดลงเหลือ 55% จากในไตรมาส 2/2559 อยู่ที่ 57% ตามแนวโน้มการชะลอตัวของธุรกิจทีวีดาวเทียมในไทย
นอกจากนี้ คาดว่าการใช้งานดาวเทียมบรอดแบนด์ (ไอพีสตาร์ หรือ ไทยคม 4) จะลดลงเหลือ 49% จากไตรมาส 1/2560 อยู่ที่ 54% สาเหตุสำคัญจากการที่สัญญาของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT ได้สิ้นสุดลงตั้งแต่เดือน พ.ค. 2560
ส่วนรายได้รวมของ THCOM ในไตรมาส 2/2560 คาดว่าจะลดลงเหลือ 2,500 ล้านบาท ลดลง 8% จากไตรมาส 1/2560 และลดลง 13% จากไตรมาส 2/2559 เนื่องจากธุรกิจดาวเทียมชะลอตัวลง รวมทั้งยังมีประเด็นความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการยิงดาวเทียมดวงใหม่ (ไทยคม 9 และไทยคม 10) ซึ่งต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย แต่ยังคงไม่มีข้อสรุปจากทางการในเรื่องนี้ และยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 ไว้ที่ 803 ล้านบาท ลดลง 50% จากปี 2559 และปี 2561 คาดมีกำไรสุทธิ 786 ล้านบาท ลดลง 2% จากปี 2560 ดังนั้น แนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 17.90 บาท