สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลง เมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้และปีหน้า และจากรายงานที่ว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างคึกคัก ก่อนที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเฟซบุ๊ก จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,513.17 จุด ลดลง 66.90 จุด หรือ -0.31% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,410.81 จุด เพิ่มขึ้น 23.05 จุด หรือ +0.36% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,469.91 จุด ลดลง 2.63 จุด หรือ -0.11%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี หลังจากมีข่าวว่า หน่วยงานต่อต้านการผูกขาดตลาดของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กำลังดำเนินการสอบสวนกรณีการสมรู้ร่วมคิดในการผูกขาดตลาดของ 3 บริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี ซึ่งได้แก่ โฟล์คสวาเกน, เดมเลอร์ และ BMW

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 379.23 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,127.70 จุด เพิ่มขึ้น 10.04 จุด หรือ +0.20% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,208.95 จุด ลดลง 31.11 จุด หรือ -0.25% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,377.73 จุด ลดลง 75.18 จุด หรือ -1.01%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบ เมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) ด้วยแรงฉุดจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสายการบิน ภายหลังจากไรอันแอร์ออกรายงานเตือนว่า ราคาตั๋วเครื่องบินกำลังเผชิญกับแรงกดดันให้ปรับตัวลง สืบเนื่องจากภาวะอุปทานส่วนเกิน นอกจากนี้ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทเรคคิท เบนคีเซอร์ ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 75.18 จุด หรือ -1.01% ปิดที่ 7,377.73 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) ขานรับซาอุดิอาระเบียที่ประกาศลดการส่งออกน้ำมัน และไนจีเรียให้คำมั่นว่าจะเข้าร่วมในข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 46.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 48.60 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลง เมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากข้อมูลภาคการผลิตและบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 60 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,254.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.4 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 16.443 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่ 932.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 4.70 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 849.05 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) ด้วยแรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตและบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1641 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1678 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3034 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3001 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7922 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7921 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.12 เยน จากระดับ 111.07 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9459 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9440 ฟรังก์สวิส