เผยแล้ว! เปิดประมูลหุ้น IFEC ส่วน “วิชัยคูณ 3” ราคาตั้งต้น 3.10 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์ 3 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด มีความประสงค์ที่จะนำหุ้น บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ของนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ขายทอดตลาด

ซึ่งกำหนดวันขายทอดตลาด วันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ณ ห้องสโรชา ชั้น 3 โรงแรมอโนมากรุงเทพ เลขที่ 99 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เวลา 10.00-12.00 น.

โดยหุ้นสามัญ IFEC จำนวน 3,900,000 หุ้น ราคาขายขั้นต้น 3.10 บาท/หุ้น รวมเป็นเงิน 12,090,000 บาท ซึ่งเป็นหลักประกันของบล.เคทีบี (ประเทศไทย) , หุ้นสามัญ IFEC จำนวน 22,775,000 หุ้น ราคาขายขั้นต้น 3.10 บาท/หุ้น รวมเป็นเงิน 70,602,500 บาท ซึ่งเป็นหลักประกันของ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) และหุ้นสามัญ IFEC จำนวน 30,786,666 หุ้น ราคาขายขั้นต้น 3.10 บาท/หุ้น รวมเป็นเงิน 95,438,664.60 บาท ซึ่งเป็นหลักประกันของบล.ทรีนิตี้

ทั้งนี้ ราคาขายขั้นต้นที่ 3.10 บาท/หุ้น เป็นราคาปิดครั้งสุดท้ายของ IFEC ในวันที่ 11 ม.ค.60 ก่อนจะถูกพักการซื้อขาย (SP)

ส่วนเงื่อนไขการเข้าสู้ราคา ผู้เข้าสู้ราคาต้องแสดงความจำนงเข้าสู้ราคา โดยการลงทะเบียนเพื่อเข้าสู้ราคาตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป พร้อมกับยื่นหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ ดังต่อไปนี้

กรณีบุคคลธรรมดา ยื่นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง, กรณีที่เป็นนิติบุคคล ยื่นสำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคลพร้อมเอกสารประกอบ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง และกรณีการรับมองอำนาจเข้าสู้ราคา ยื่นหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมองอำนาจ

สำหรับผู้ประสงค์จะเข้าสู้ราคาต้องวางหลักประกันเป็นแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายชื่อบริษัทหลักทรัพย์ที่ท่านประสงค์เข้าสู้ราคา ดังนี้

1.1 บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 1,500,000 (หนึ่งล้านห้าแสนบาท) 1.2 บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จำนวน 7,500,000 (เจ็ดล้านห้าแสนบาท) และ 1.3 บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด จำนวน 10,000,000 (สิบล้านบาท) ส่วนผู้ที่ซื้อไม่ได้ บริษัทจะคืนหลักประกันให้ทันทีหลังการขาย

สำหรับการเสนอราคาเริ่มต้นที่ราคา 3.10 บาทต่อหุ้น ประมูลเพิ่มครั้งละ 0.02 สตางค์ต่อหุ้น และการขายทรัพย์ตาม 1.1-1.3 แยกขายเป็นรายบริษัท เริ่มต้นขายเรียงตามลำดับจากบริษัทหลักทรัพย์ในข้อ 1.1 จนถึงข้อ 1.3 ต่อเนื่องไปจนเสร็จ โดยหุ้นของแต่ละบริษัทจะขายรวมกันเป็น 1 ครั้ง (Big Lot) ไม่แยกขาย

ทั้งนี้ในการขายทอดตลาด หากไม่มีผู้สู้ราคา และ/หรือ ตามเวลาที่บริษัทกำหนด บริษัทมีสิทธิงดการขายในวันนั้น

สำหรับข้อกำหนดภายหลังการขาย ผู้ซื้อได้ต้องทำสัญญาซื้อขายในวันที่ซื้อได้ โดยให้ถือว่าหลักประกันตามเงื่อนไขการเข้าสู้ราคาเป็นส่วนหนึ่งของการชำระราคาและผู้ซื้อได้จะต้องชำระเงินส่วนที่เหลือภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันซื้อเป็นต้นไป

โดยเมื่อผู้ซื้อชำระราคาให้แก่บริษัทหลักทรัพย์ครบถ้วนแล้ว บริษัทจะดำเนินการโอนเปลี่ยนชื่อหลักทรัพย์ที่ขายทอดตลาดให้กับผู้ซื้อทรัพย์ภายใน 5 วันทำการ นับแต่วันได้รับชำระราคาครบถ้วน และผู้ซื้อทรัพย์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบในค่าฤชาธรรมเนียม ภาษีอากร ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการโอนทรัพย์ที่ขายทอดตลาดไปเป็นของผู้ซื้อทรัพย์ได้ หากบริษัทโอนหุ้นให้แก่ผู้ซื้อไม่ได้ บริษัทจะคืนเงินให้แก่ผู้ซื้อภายใน 3 วันทำการโดยไม่มีดอกเบี้ย

และหากผู้ซื้อไม่ชำระราคาส่วนที่เหลือภายในเวลาที่กำหนด บริษัทจะไม่คืนเงิน (ริบเงินประกัน) ที่ผู้ซื้อนั้นวางไว้และบริษัทมีสิทธินำหุ้นนั้นออกมาขายทอดตลาดใหม่หากการขายทอดตลาดครั้งใหม่ ขายได้ราคาสูงสุดต่ำกว่าราคาสูงสุดที่ผู้ซื้อเดิมเสนอซื้อไว้ในการขายทอดตลาดครั้งก่อน ผู้ซื้อเดิมต้องรับผิดชอบชำระราคาส่วนต่างที่ขาดจำนวนอยู่พร้อมดอกเบี้ยของจำนวนราคาส่วนต่างในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันครบกำหนดชำระเงิน

อนึ่ง หุ้นจำนวนดังกล่าวที่ขายทอดตลาด เป็นหุ้นที่นายวิชัยกำลังจะถูกบังคับขาย (Forced Sell) แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากในวันถัดมา คือ วันที่ 12 ม.ค. 60 ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ประกาศขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการ Forced Sell ได้

หลังจากนั้นนายวิชัยไม่ได้มีการประสานงานกับเจ้าหนี้ เพื่อเพิ่มหลักทรัพย์ค้ำแต่ประการใด และหากหุ้น IFEC ติดเครื่องหมาย SP เกิน 6 เดือน โบรกเกอร์ทั้ง 3 รายในฐานะเจ้าหนี้สามารถดำเนินการเอาหุ้นออกมาประมูลขายทอดตลาดได้