สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้ ประจำวันที่ 1 ส.ค.60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) โดยดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 4 หลังจากหุ้นบริษัทผลิตเครื่องบินรายใหญ่อย่าง โบอิ้ง ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายของสหรัฐฟื้นตัวในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,891.12 จุด เพิ่มขึ้น 60.81 จุด หรือ +0.28% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,348.12 จุด ลดลง 26.55 จุด หรือ -0.42% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,470.30 จุด ลดลง 1.80 จุด หรือ -0.07%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลง เมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทส่งออกของยุโรป อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น หลังจากมีรายงานว่า ภาคการผลิตของจีนยังคงขยายตัวในเดือนก.ค.
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 377.85 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,093.77 จุด ลดลง 37.62 จุด หรือ -0.73% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,372.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.63 จุด หรือ +0.05% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,118.25 จุด ลดลง 44.45 จุด หรือ -0.37%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก เมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นธนาคารเอชเอสบีซีที่ทะยานขึ้นขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2/2560 อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ถูกสกัดแรงบวกในระหว่างวันจากปัจจัยสกุลเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 3.63 จุด หรือ +0.05% ปิดที่ 7,372.00 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) หลังจากสหรัฐขู่ว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อตอบโต้รัฐบาลเวเนซุเอลาภายใต้การนำของนายนิโคลัส มาดูโร ที่เดินหน้าจัดการเลือกตั้งสมัชชาร่างรัฐธรรมนูญ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 50.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 52.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยสกัดแรงลบในตลาด ซึ่งส่งผลให้สัญญาทองคำปิดปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.90 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ระดับ 1,273.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 9.1 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 16.786 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 4.1 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 940.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 5.25 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 885.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) จากแรงกดดันของสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ โดยล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งปลดนายแอนโธนี สคารามุคซี ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของทำเนียบขาว ซึ่งได้สร้างความวิตกให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับการบริหารประเทศของทรัมป์
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1825 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1754 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 1.3193 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3143 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7990 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7989 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.37 เยน จากระดับ 110.68 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9663 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9687 ฟรังก์สวิส