TLUXE เลื่อนเวลาจัดทำ Due Diligence โรงไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพไป 30 วัน

TLUXE ขยายเวลาจัดทำ Due Diligence โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ 8 แห่งในญี่ปุ่น ไปอีก 30 วัน


บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TLUXE เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 ทาง Reiko Yamanouchi ซึ่งเป็นกรรมการบริหาร บริษัท อาซูการ์ แอสเซส เมเนจเม้น จำกัด หรือ Azucar Asset Management Inc. ในฐานะตัวแทนผู้ถือหุ้นของกลุ่มบริษัททั้ง 4 ได้มีหนังสือตกลงให้ขยายระยะเวลาในการจัดทำ ออกไปอีก 30 วัน จึงทำให้การเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นของกลุ่มบริษัททั้ง 4 จะทราบภายหลังการจัดทำ Due Diligence แล้วเสร็จ

อนึ่ง เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560 TLUXE ได้เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) รวมทั้งสิ้น 8 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 1,000 กิโลวัตต์ ตั้งอยู่ในเมืองเบบปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีมูลค่ารวมของทั้ง 8 โครงการประมาณ 755.72 ล้านบาท หรือประมาณ 2,450 ล้านเยน โดยคาดว่าจะมีการทำสัญญาซื้อขายหุ้นประมาณเดือนก.ค.60

โดยการลงทุนดังกล่าวจะเป็นการซื้อกิจการทั้งหมด 4 บริษัท ได้แก่ 1. Fino Binary Power Plant Limited Liability Company 2.NIS Binary Power  Plant Limited Liability Company 3.Beppu Tsurumi  Onsen Geothermal  Power Station  No.1 Liaison Company และ 4.Dual Energy  Binary-Power Plant No.1 Limited Liability Company (กลุ่มบริษัททั้ง 4) ซึ่งการเข้าลงทุนครั้งนี้ เพื่อรักษาโอกาสทางธุรกิจและเพื่อให้บริษัทได้รับประโยชน์จากราคาขายไฟในอัตราสูงสุดตามกฎเกณฑ์ของกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (Ministry of Economy, Trade and Industry :METI)

ทั้งนี้ หลังจากบริษัทได้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ จำนวน 13 โครงการ ด้วยการซื้อกิจการบริษัท พีพีเอสเอ็น จำกัด (PPSN Co., Ltd.) และบริษัท ซูโม่ พาวเวอร์ จำกัด (SUMO POWER Co.,Ltd.) ไปแล้ว ต่อมาบริษัทได้รับการติดต่อจากบริษัท อาซูการ์ แอสเซส เมเนจเม้น จำกัด (Azucar Asset Management Inc.) ในฐานะตัวแทนผู้ถือหุ้นของกลุ่มบริษัททั้ง 4 เพื่อขายกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ จำนวน 8 โครงการดังกล่าวให้กับบริษัท ซึ่งไม่มีความเกี่ยวเนื่องกับ 13 โครงการแรกที่ได้ลงทุนไปแล้ว

สำหรับโรงไฟฟ้าทั้ง 8 โครงการที่จะเข้าลงทุนครั้งนี้ มีโครงการที่จ่ายไฟฟ้าแล้ว 2 โครงการ เมื่อปี 58 และปี 59 ตามลำดับ ส่วนโครงการที่เหลือ ได้แก่ โครงการที่  3 ,4,5 ,6, 7 และ 8 คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเดือนก.ค.60

ขณะที่บริษัทคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าทั้ง 8 โครงการ เนื่องจากเป็นการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่บริษัท คิวชู อิเล็กทริก พาวเวอร์ จำกัด และได้รับอัตราผลตอบแทน (IRR) ที่ 8.11% ต่อปี อีกทั้งยังสามารถขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและเพิ่มความมั่นคงของรายได้ และเป็นการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำเพียงอย่างเดียว

โดยแหล่งที่มาของเงินลงทุนจะมาจากการเสนอขายหุ้นกู้ หรือเงินยืมจากสถาบันการเงิน หรือกระแสเงินสดของบริษัท ส่วนผลกระทบต่ออัตราส่วน D/E จากไตรมาสแรกของปี 60 คือ 0.96 เท่า คาดว่าจะสูงขึ้นเป็น 1.36 เท่า

Back to top button